เปิดประตูสู่อารามภายในของเรา
พระอาจารย์รูมาเทศนาที่วัดโปรจัมสกอร์
พนมเปญ กัมพูชา
19 พฤศจิกายน 2551
อรุณสวัสดิ์ท่านทั้งหลาย
ก่อนอื่นขอให้พวกเราหลับตาลงเพื่อสวดอธิษฐานและขอบคุณพระพุทธเจ้าที่ประทานพรให้กับพวกเรา ให้กับประเทศและให้กับโลกด้วยสันติภาพ ความเมตตาและความรัก และความสงบสุข ไม่มีสงคราม ไม่มีความโกรธเคือง ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน
ขอบคุณ อาตมาไม่รู้ว่าทำไมตอนที่อาตมาก้าวเข้ามาในวัดนี้ อาตมารู้สึกเหมือนกำลังกลับบ้านวัดนี้เป็นวัดแรกที่อาตมาอยู่ตอนที่อายุประมาณ 5-6 ปีหลังจากนั้นอาตมาก็ออกจากที่นี่ไปอยู่ที่เวียดนาม แล้วก็ไปอเมริกา ตอนนั้นอาตมาอายุได้ 12-13 ปี
อาตมาอยากกลับมาดูวัดที่สวยงามแห่งนี้ ตอนนี้อาตมาจำที่นี่ได้นิดหน่อย นิดเดียวเท่านั้น อาตมารู้สึกว่าน้ำตาจะไหลเพราะว่าอาตมาเห็นพระภิกษุที่นี่งดงามมากและบำรุงรักษาวัดได้สวยงามมากด้วย
ขอขอบคุณพระภิกษุทุกรูปที่ต้อนรับอาตมาให้กลับมาที่นี่เพื่อชมวัดที่งดงามแห่งนี้และเตือนให้อาตมานึกถึงอดีตเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา และอาตมาก็รู้สึกขอบคุณเจ้าอาวาสที่นี่เมื่อก่อน ถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่อาตมาก็รู้ว่าท่านไปดินแดนแห่งพระพุทธะแล้ว ท่านเป็นคนที่ช่วยอาตมาและครอบครัวให้หนีออกจากสงครามและให้มีชีวิตอย่างสันติในตอนนั้น อาตมาเก็บท่านไว้ในใจจนถึงวันนี้ ไม่เคยลืม
ในตอนนั้นอาตมาเห็นความทุกข์มากมายของมนุษย์ หลังจากที่อาตมาไปที่อเมริกา อาตมามีทรัพย์สมบัติทุกอย่างแต่อาตมาก็ไม่พอใจ
อาตมาจำทุกคำที่พระพุทธเจ้าสอนว่า “ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง เราต้องรู้แจ้ง เราต้องค้นหาสวรรค์เพื่อให้เราอยู่ที่นั่นตลอดไป”
ก่อนหน้านี้ อาตมาโตที่อเมริกา อาตมาบอกว่า “พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าชายหรือเป็นกษัตริย์ในอนาคตแต่พระองค์ละทิ้งทุกอย่างมาบวชเป็นพระเพื่อค้นหาทางตรัสรู้”
หลังจากนั้น อาตมาบอกว่า “ฉันต้องไปอินเดีย ไปดินแดนของพระพุทธเจ้า ไปหาสัจธรรม ไปหาพระอาจารย์ผู้รู้แจ้งเห็นจริง ที่รู้ว่าจะค้นหาความจริงภายในได้อย่างไร เหมือนพระพุทธเจ้า พระองค์ทำได้ ฉันก็ทำได้เช่นกัน”
อาตมามีวัตถุสิ่งของมากมายแต่อาตมาก็ไม่พอใจ ตอนที่อาตมามีเงินอาตมาก็บริจาคให้กับผู้อพยพในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ช่วยคนจน แต่อาตมาก็คิดว่ายังไม่พอ
ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินเป็นล้าน ก็ยังไม่พอสำหรับช่วยเหลือคนจน เราจึงต้องไปบวชเพื่อค้นหาสัจธรรม ไปเรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วหลังจากนั้นเราจะช่วยคนให้มีทุกข์น้อยลงและเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้า
เพราะว่าถ้าเราไม่เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรแล้วเราจะเป็นทุกข์ นั่นคือสาเหตุที่ทั้งโลกกำลังเป็นทุกข์ ทั้งโลกต่างสู้รบกัน นั่นคือเหตุที่ทำให้เรามีสงครามกัน
ถ้าพวกเขาติดต่อสื่อสารกับพระพุทธเจ้าได้แล้วพวกเขาจะมีสันติภาพ ความรักและความเมตตาและจะไม่มีสงคราม ไม่มีความยากจน ไม่มีการสู้รบกัน
เพราะว่าเราเกิดมา มีชีวิตและตายไป เราลืมว่าบ้านอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่นี่นานเกินไปและเราก็เวียนว่ายตายเกิดเป็นเวลานานและเราก็ลืมว่าดินแดนแห่งพระพุทธะอยู่ที่ไหน สวรรค์อยู่ที่ไหน
นั้นคือสาเหตุที่อาตมาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาสัจธรรม เพื่อเรียนรู้หนทางแห่งพระพุทธะ ไปค้นหาว่ายังมีกุญแจสู่การเป็นพระพุทธเจ้าหลงเหลือยู่ในโลกมนุษย์หรือไม่
อาตมารู้ว่าพระพุทธเจ้าได้จากเราไปนิพพานตั้ง 2000 กว่าปีมาแล้ว แต่อาตมาก็รู้ว่าพระองค์ยังคงอยู่ที่นี่ พระองค์อยู่กับเราตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าพวกเราไม่รู้ว่าจะติดต่อกับพระพุทธเจ้าได้อย่างไร พวกเราจะเหงามาก พวกเราจะเป็นทุกข์มาก อาตมาสวดอธิษฐานทุกวัน อาตมาบอกว่า “พระ พุทธองค์ได้โปรดมาหาข้าพเจ้าด้วย ทำไมพระองค์ไปที่อินเดียเมื่อ 2000 กว่าปีที่แล้ว?ทำไมมามาตอนนี้?ให้ข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ได้ไหม? ให้ข้าพเจ้าพูดกับพระองค์ได้ไหม? ได้โปรดมาด้วยเถอะ” อาตมาอธิษฐานทุกวันและหลังจากนั้น อาตมาก็รู้ว่าพระองค์อยู่ที่นี่ พระองค์พูดกับอาตมาทุกวัน และพูดกับพวกท่านทุกวัน แต่บางครั้งพวกท่านก็ไม่ได้ใส่ใจ พวกท่านยุ่งเกินไปและไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่พระองค์บอก”
มนุษย์เรามีภาษาที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับคนอื่น พระพุทธเจ้าก็มีภาษาที่ใช้เพื่อเข้าใจมนุษย์และเพื่อช่วยมนุษย์ให้สื่อสารกับพระองค์ได้ หลังจากนั้นเราก็จะรู้แจ้ง
พระองค์อยู่ที่นี่กับพวกเราและเข้าใจทุกอย่างแต่พวกเราไม่เข้าใจพระองค์ เรามัวแต่ยุ่งกับการทำงาน เราสวดอธิษฐานแต่หลังจากที่อธิษฐานเสร็จเราก็ลุกขึ้นเดินจากไป แล้วเมื่อพระพุทธเจ้าอยากจะตอบเราและทำให้เราเข้าใจ เราก็ไม่ฟัง นั่นคือทำไมอาตมาจึงไปอินเดีย อาตมาบอกว่า “บางทีฉันต้องค้นหาคำพูดของพระพุทธเจ้า พระองค์สื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างไร พระองค์จะสอนฉันได้อย่างไร ฉันไม่อยากอ่านแต่ในคัมภีร์ พระไตรปิฎก ฉันอยากได้ยินถ้อยคำจากพระองค์ ฉันจะเจอพระองค์ได้อย่างไร ฉันจะเข้าใจพระองค์ได้อย่างไร”
แต่อาตมารู้ว่าทุกคนเห็นพระพุทธเจ้าได้ ทุกคนมีพระพุทธะภายใน อาตมาคิดว่าเป็นการง่ายมากที่จะไปดินแดนแห่งพระพุทธะถ้าเรามีกุญแจเข้าบ้านของพระพุทธเจ้า
หน้าที่ของอาตมาไม่ใช่เพื่อมาสอนพวกท่าน หน้าที่ของอาตมาคือมอบกุญแจเข้าบ้านของพระพุทธเจ้าให้กับพวกท่าน หน้าที่ของอาตมาคือมาที่นี่เพื่อเชื่อมต่อมนุษย์กับพระพุทธเจ้าและช่วยให้เข้าใจภาษาของพระองค์
อาตมาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นพระอาจารย์หรือเป็นครูของพวกท่าน แต่จะช่วยสอนพวกท่านว่าจะเป็นพระอาจารย์ เป็นครู และเป็นพระพุทธเจ้าที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นพระพุทธะ พวกท่านเป็นพระพุทธะในอนาคต” “ทุกคนมีอารามที่สวยงามอยู่ภายใน” และ“ทุกคนมีพระพุทธะอยู่ภายในหัวใจตัวเอง”
อาตมาเป็นผู้นำทางที่ทำงานให้กับพระพุทธเจ้าเพื่อช่วยให้บุตรหลานของพระองค์สามารถเชื่อมต่อกับพระองค์และเข้าใจภาษาของพระพุทธะและเปิดปัญญาให้พวกเขา อาตมาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นอาจารย์ของพวกท่านแต่มาเพื่อปลุกพระพุทธะภายในของพวกท่านให้ตื่น ไม่ให้หลับตลอดไป
พวกท่านทั้งหลายเป็นพ่อแม่ของอาตมาเมื่อนานมาแล้ว พวกท่านเป็นอาจารย์ของอาตมา อาตมาเห็นเช่นนั้น
อาตมาคิดว่าคงจบแค่นี้ก่อน อาตมาไม่รู้ว่ากำหนดการของพวกท่านเป็นอย่างไรแต่อาตมาขอขอบคุณพวกท่านทั้งหลายและ ท่านเจ้าอาวาสอีกครั้งด้วยใจจริง อาตมาไม่เจอท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนเพราะว่าท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว แต่อาตมาขออธิษฐานต่อพระพุทธเจ้าให้พาท่านไปดินแดนแห่งพระพุทธะ
ขอบคุณมาก ประเทศของท่านชื่อกัมพูชา ใช่ไหม? แต่อาตมาขอเรียกว่าประเทศ ”กัมพุทธะ!”
ถาม: กราบนมัสการพระอาจารย์รูมา ขอบคุณมาก กระผมมีคำถามว่า “ตอนนี้มีภัยพิบัติเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก พวกเราจะทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหานี้และช่วยเหลือตัวเราเองด้วย?”
ตอบ: เพราะว่าไม่มีใครมองพระพุทธเจ้า ไม่มีใครสื่อสารกับพระพุทธเจ้า ไม่มีใครอธิษฐานต่อพระองค์ ทำให้พวกเรามีปัญหาพวกเขาไม่อยากฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า พระองค์สอนพวกเราและบอกให้พวกเราทำความดีแต่พวกเขาก็ไม่ฟัง พวกเขาไม่อยากไปวัด พวกเขาอยากอยู่บ้าน ดื่มเหล้า ทำงานและทำทุกอย่างที่ตรงข้ามกับที่พระพุทธองค์สอน
ถ้าพวกเราเข้าใจพระพุทธเจ้าจริงๆแล้วเราจะหยุดการฆ่าฟันและพวกเราจะไม่มีภัยพิบัติ ถ้าพวกเราฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าและทำตามที่พระองค์ตรัสและทำเหมือนกัน อาตมารู้ว่าจะไม่มีภัยพิบัติอย่างแน่นอน
ถาม: ผมดีใจที่พระอาจารย์มาที่นี่และนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับพุทธศาสนามาให้ ผมมีคำถามเล็กน้อย พวกเราจะปฏิบัติวิธีทางศาสนาพุทธเพื่อรู้แจ้งในชาติเดียวได้หรือ? ถ้าได้ช่วยบอกเราด้วยว่าทำอย่างไร วิธีการฝึกที่ดีที่สุดคืออะไร?
ตอบ: ท่านจะฝึกเพื่อรู้แจ้งอย่างไรเหรอ? ทำได้สิ อาตมาทำได้ท่านก็ทำได้สิ ใช่ไหม ท่านทำได้ เพราะว่าท่านไม่มีโอกาสได้ไปอินเดียไปหาอาจารย์ทางจิตวิญญาณ ท่านอยู่แต่ที่นี่หรือเข้าๆออกๆวัดเท่านั้น แต่ท่านก็รู้แจ้งได้ ง่ายมาก เหมือนนับ 123 แล้วไปเลย การรู้แจ้งไม่ใช่คำพูด ตอนที่อาตมาประทับจิตให้ท่าน อาตมาไม่พูดแต่ท่านจะเห็นพระพุทธเจ้า จะเห็นแสงได้ทันที
ถาม: การทำสมาธิเสียงและแสงเป็นอย่างไร? เสียงคือคำพูดของพระพุทธเจ้าหรือ?
ตอบ: พระพุทธเจ้าใช้คำพูด เสียงเป็นการสื่อสารกับมนุษย์ เสียงชนิดนั้นเป็นการทำให้มนุษย์เข้าใจพระพุทธเจ้าได้
ไม่ใช่เสียงจากภายนอก นั่นเป็นเสียงภายใน
แล้วแสงล่ะ แสงคืออะไร เสียงและแสง แสงหมายถึงแสงแห่งพระพุทธะ พวกท่านเห็นพระพุทธเจ้าไหม พระองค์มีแสงรอบกาย นั่นคือแสงนั้นละ เมื่อท่านรู้แจ้งแล้ว พวกท่านจะมีแสงเหมือนพระพุทธเจ้า พวกท่านจะเห็นแสงนั้น แต่พวกท่านต้องมีอาจารย์ที่ช่วยเปิดปัญญาก่อนแล้วจึงจะเห็นแสงได้ พวกท่านจะเห็นแสงได้ทันทีตอนที่อาตมาประทับจิตให้ พวกท่านจะเห็นแสงพระพุทธะได้ทุกเมื่อทุกวินาที อาตมามีกุญแจนั้น ใครก็ตามที่ต้องการ อาตมาก็ยินดี เป็นกุญแจสำหรับเข้าบ้านของพระพุทธเจ้า
อาตมาคิดว่าเวลาหมดแล้ว ขอบคุณพระสงฆ์ทุกรูปที่นี่ โดยเฉพาะท่านเจ้าอาวาสที่ให้ความร่วมมือให้อาตมาได้แบ่งปันคำสอนทางจิตวิญญาณจากพระพุทธเจ้ากับพวกท่าน และอาตมาก็ขอให้พระองค์ทรงประทานพรให้กับทั้งโลกและประเทศนี้ตลอดไป
ขอบคุณมาก ขอบคุณ แล้วพบกันใหม่บนสวรรค์ สำหรับประเทศที่สวยงามนี้และคนดีๆในกัมพูชา อาตมาขออธิษฐานต่อพระพุทธเจ้าว่า “ได้โปรดช่วยมนุษย์ ช่วยวัดนี้ด้วยเถิด”
ขอบคุณมาก
