ทำไมต้องทานมังสวิรัติ?

  มังสวิรัติในยุคใหม่

พระอาจารย์รูมาเทศนาผ่านอินเตอร์เน็ต จากรัฐฟลอริดา – ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันที่ 10 สิงหาคม 2549

 
    
การรับประทานมังสวิรัตินั้นไม่มีอะไรลึกลับ บางคนอาจคิดว่าการรับประทานมังสวิรัติเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่นี่เป็นการช่วยให้สุขภาพของเขาดีขึ้น พวกท่านรู้ไหมว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลกต่างก็รับประทานมังสวิรัติ พวกเขาเข้าใจว่าเป็นเรื่องจำเป็นทั้งด้านจริยธรรมและประโยชน์ด้านสุขภาพ พระอาจารย์อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการรับประทานมังสวิรัติในยุคใหม่ของคนต่างประเทศมามาก เขาเขียนได้ดีมาก เขายืนยันว่ามังสวิรัติกำลังเป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง มีผู้คนมากมายที่สนับสนุนการรับประทานมังสวิรัติ เขายังพิสูจน์อีกว่าการรับประทานมังสวิรัติดีสำหรับร่างกายและเสริมสร้างความเมตตา   เขายังเผยแพร่เอกสารให้สำหรับผู้ต้องการรับประทานมังสวิรัติอีกด้วย

 
     การรับประทานอาหารมังสวิรัตินั้นนั้นมีประโยชน์มาก เพราะผักและธัญพืชต่างๆมีสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการ พระอาจารย์ได้อ่านบทความทางวิทยาศาสตร์มากมายเกี่ยวกับการทานมังสวิรัติ นักมังสวิรัติมักมีชีวิตที่เรียบง่าย และนักวิทยาศาสตร์หลายคนต่างก็รับประทานมังสวิรัติ

     พวกเราก็รู้ว่าการเลี้ยงหมู เลี้ยงวัว และการเอาอาหารให้สัตว์ มันเสียเวลามาก คนเราทานเนื้อสัตว์แต่อาหารที่เราให้สัตว์กินส่วนใหญ่เป็นพืชผัก เราเห็นไหมว่ามันสิ้นเปลือง ทำไมเราไม่เอาทุนที่เราต้องเสียไปนั้นมาปลูกผัก ผลไม้แล้วกินโดยตรงจากสิ่งเหล่านั้น มันดีต่อชีวิตพวกเรามากกว่า

     ส่วนตัวพระอาจารย์เองคิดว่าการทานมังสวิรัติเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงนิสัยที่ไม่ดี มันเป็นความเคยชินที่สังคมได้ปลูกฝังในชีวิตของเรา ตอนที่เราเกิดมายังไม่รู้จักว่ารับประทานเนื้อสัตว์เป็นอย่างไร แต่เริ่มรับประทานเนื้อสัตว์เมื่อโตขึ้นและค่อยๆ ซึมซับนิสัยไม่ดีต่างๆ ในเวลาต่อมา ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด เราควรรับประทานมังสวิรัติเป็นประจำ

     ส่วนใหญ่คนในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คิดว่า เฉพาะผู้ที่สละครอบครัวเพื่อค้นหาสัจธรรม หรือนักบวชเท่านั้นที่รับประทานมังสวิรัติ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่อย่างนั้น พระอาจารย์อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานาน และก็เห็นว่าคนอเมริกันเป็นนักมังสวิรัติกันมาก เพราะพวกเขาเข้าใจว่ามันมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยให้รู้สึกสบายใจ ไม่เจ็บไม่ป่วย

     งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหลายคนก็ชี้ว่า ชาวอเมริกันรู้ว่าการทานมังสวิรัติมีประโยชน์  ดังนั้นจึงมีร้านขายอาหารที่เรียกว่า“อาหารสุขภาพ” อาหารเหล่านี้มีราคาแพง เพราะมันไม่มีส่วนประกอบจากเนื้อสัตว์หรือสารเคมีใดๆ จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หนังสือพิมพ์ต่างประเทศหรือที่อื่นๆต่างก็พูดถึงเรื่องนี้  พระอาจารย์คิดว่าคงมีหลายท่านที่รู้เรื่องนี้แล้ว

     (อัตราส่วนโปรตีนในเต้าหู้ที่ผลิตจากถั่วเหลืองเป็น 16%, โปรตีนจากแป้งสาลีเป็น 70%, จากข้าวโพดเป็น 13%, จากข้าวเป็น 8.6%จากถั่วต่างๆเป็น 10-35%  ผักและผลไม้มีวิตามินมาก ซึ่งดีต่อสุขภาพ ป้องกันโรคและช่วยให้พวกเรามีอายุยืนยาว)

     พวกเราเคยชินกับการรับประทานเนื้อสัตว์ แต่มันเป็นความเคยชินทางด้านจิตใจเท่านั้น เขาคิดว่ารับประทานเนื้อไก่หรือเป็ด 2-3 ชิ้น มันไม่เป็นอะไร แต่เขาไม่ได้คำนึงถึงชีวิตของสัตว์พวกนั้น ดังนั้น ทำไมเราไม่เสียสละรสชาดอาหารเพียงส่วนหนึ่งเพื่อทำให้สัตว์พวกนั้นสบายขึ้นและไม่ต้องหวาดกลัว และตัวเราเองก็สบายใจขึ้นด้วย ตอนที่สัตว์พวกนั้นเกิดความกลัว ในร่างกายของมันจะผลิตสารพิษออกมา เมื่อเรากินเข้าไปจะเป็นผลร้ายแก่สุขภาพของเรา

     ฉะนั้น การรับประทานมังสวิรัติจึงมีผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ เราก็ทำงานได้ดีขึ้นเพราะว่าอาหารที่กินเข้าไปมีสารอาหารครบตามมาตรฐาน แร่ธาตุที่มีอยู่ในผักหรือธัญพืชนั้นย่อยง่าย แค่หลังจากที่เรากินเข้าไป 2-3 ชั่วโมงก็สามารถย่อยแล้ว ฉะนั้น กระเพาะก็ไม่ได้ทำงานหนัก แต่ถ้าเรากินเนื้อ การย่อยต้องใช้เวลานาน และวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์แล้วว่าส่งผลลบต่อร่างกายของเรา

     พระอาจารย์เติบโตขึ้นในต่างประเทศ จึงเข้าใจว่าการทานมังสวิรัติไม่เกี่ยวกับการบวช และไม่ใช่นักบวชเท่านั้นจึงจะรับประทานมังสวิรัติ เมื่อก่อนพระอาจารย์อยู่ร่วมกับครอบครัวคนอเมริกา ในครอบครัวมีคนรับประทานมังสวิรัติคนหนึ่ง คนอื่นทานเนื้อ คนรับประทานมังสวิรัติหิวเร็วกว่าคนรับประทานเนื้อสัตว์ เพราะว่าอาหารย่อยดีกว่า กระเพาะก็ทำงานน้อยกว่า จึงหิวเร็วกว่า ส่วนเนื้อสัตว์นั้นย่อยยากกว่า มันอยู่ในกระเพาะนานกว่า ทำให้เราไม่หิว แต่เราจะอึดอัดกว่า ถ้าท่านอยากศึกษาว่าการทานมังสวิรัติมีประโยชน์อย่างไรก็สามารถหาอ่านได้จากบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่มีมากมายทั่วโลก

     ในปัจจุบัน การทานมังสวิรัติในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็แพร่หลายมากขึ้น เฉพาะประเทศเรา อยู่จังหวัดไหนก็มีร้านอาหารมังสวิรัติ ประเทศอื่นๆก็เช่นกัน โรงเรียนในประเทศอเมริกาก็มีเด็กรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง พวกเขาชอบทานพิซซ่า ชีส หรือผักสลัดที่ไม่มีเนื้อ บางคนก็ทานเส้นหมี่ชนิดหนึ่งที่มีเนื้อแต่ก็ไม่ทานเนื้อ เพราะว่าทานแล้วอึดอัด แน่นท้อง

     คนเราแต่โบราณมาไม่ใช่รับประทานเนื้อสัตว์ แต่ถ้าอธิบายมันยืดยาว พวกท่านอาจหาอ่านได้จากหนังสือ หนังสือพิมพ์ต่างๆ   เพราะฉะนั้นผู้ที่รับประทานมังสวิรัติจะรู้สึกเบาตัวกว่า สบายใจกว่า และรู้สึกมีความเมตตากรุณากับผู้อื่น แม้กระทั่งสัตว์ต่างๆ ดังนั้น เราควรเรียนรู้เพื่อเข้าใจการทานมังสวิรัติมากขึ้น และผู้ที่คิดว่ารับประทานเนื้อสัตว์ มีสารอาหารมากกว่ารับประทานมังสวิรัติควรอ่านผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอาหารมังสวิรัติ พวกนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นคว้าพิสูจน์มาแล้วและแนะนำให้รับประทานมังสวิรัติ เพื่อลดการฆ่าสัตว์และฝ่าฝืนกฎทางจริยธรรม
เพราะว่านักวิจัยด้านสุขภาพ พระอาจารย์นิกายเซ็น และนักบวชต่างก็ได้อธิบายอย่างชัดเจนแล้วว่าทำไมพวกเราควรรับประทานมังสวิรัติ ดังนั้น พระอาจารย์ไม่ต้องพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก พวกเราลองมาดูอนาคตข้างหน้า สมมุติว่า  วันหนึ่งมนุษย์ต้องดำรงชีวิตด้วยการใช้พลังงานจากธรรมชาติ พวกเราจะทำอย่างไร? เราต้องกินอยู่ให้พอเหมาะสบายๆ ใช่ไหม? พวกท่านเข้าใจที่พระอาจารย์พูดไหม (เข้าใจครับ/ค่ะ)

     พระอาจารย์จำได้ว่าได้อ่านบทความของนักวิจัยด้านสุขภาพมนุษย์คนหนึ่งที่เขียนเมื่อประมาณปี 1930 พระอาจารย์ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องปีแต่ก็เช็คได้ง่ายเพราะว่าเขามีชื่อเสียง เขาพูดถึงเรื่องมังสวิรัติว่า การทานมังสวิรัติทำให้เราห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ สมองปลอดโปร่งกว่า สัตว์ต่างๆเจอเราก็ไม่กลัวเรา แต่กลับรู้สึกสบายใจ พวกเราก็รักสัตว์ตัวเล็กๆพวกนี้มากขึ้น พระอาจารย์แน่ใจว่าพวกท่านรู้ว่ารับประทานมังสวิรัตินั้นดีอย่างไร  นอกจากนี้ เท่าที่พบเจอมา คนรับประทานมังสวิรัติยังอายุยืนอีกด้วย

     เมื่อเร็วๆนี้ พระอาจารย์อ่านข่าวบนอินเตอร์เน็ต ท่านดาไลลามะแห่งทิเบตกล่าวว่า ถึงแม้ว่าท่านจะอายุมากแล้ว แต่ท่านรับประทานมังสวิรัติตลอดเพื่อรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์และเพิ่มพูนความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ ท่านประกาศให้ทุกคนรู้ด้วยความภาคภูมิใจ ลามะหลายคนในทิเบตก็รู้ถึงคุณประโยชน์ของการทานมังสวิรัติดี พวกเขาเข้าใจว่าการทานมังสวิรัตินำไปสู่ความสงบสุขในจิตใจ ดังเช่นที่ท่านดาไลลามะกล่าว เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าการทานมังสวิรัตินั้นดี เพราะบรรดาผู้นำศาสนาในโลกยังรับประทานมังสวิรัติ

     นอกจากนี้ บรรดาแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้พิสูจน์ว่าการทานมังสวิรัติทำให้มีสุขภาพดีขึ้น และมีสติปัญญาดีขึ้น เป็นผลให้สามารถแก้ปัญหาได้ดีขึ้น การรับประทานมังสวิรัติเป็นผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ เรื่องนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ไม่มีอะไรลึกลับ  แต่ตามคำของผู้นำศาสนา การรับประทานมังสวิรัติเป็นการเพิ่มพูนความเมตตา ความโอบอ้อมอารีให้กับทุกๆชีวิตบนโลกใบนี้ เพื่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อความเมตตา พวกเราควรต่อต้านการทำร้ายหรือฆ่าสัตว์ใดๆบนโลกที่สวยงามใบนี้

     บรรดาแพทย์เมื่อเห็นผู้ป่วยมีอาการหนักก็แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลงหรือทานอาหารเบาๆ ย่อยง่าย ทานข้าวต้ม ซุปหรือใช้แป้งจากธัญพืชเพื่อให้หายเร็วๆ แต่เมื่อเขาแข็งแรงขึ้นมาก็กลับลืมไปว่า บรรดาอาหารเหล่านั้นทำให้เขาหายดีขึ้น ในโลกนั้นยังมีคนอีกมากที่คิดว่า อาหารมังสวิรัติไม่มีสารอาหารเท่าเนื้อสัตว์ หรือไม่ดีเท่ารับประทานเนื้อสัตว์ ไม่ใช่เช่นนั้น ประโยชน์ของการทานมังสวิรัติก็เป็นที่พิสูจน์แล้วอย่างที่พวกท่านเห็น

     การทานมังสวิรัติทำให้เราสบายเนื้อสบายตัวและสบายใจ จะมีอะไรเกิดขึ้นก็รับมือได้อย่างมั่นใจ  หากพวกท่านเข้าไปที่โรงฆ่าสัตว์ พระอาจารย์เชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าทานเนื้ออีกและจะเปลี่ยนไปทานมังสวิรัติทันที พวกเราทานเนื้อสัตว์เพราะเราไม่เห็นว่าสัตว์ก่อนจะถูกฆ่าตายนั้นหวาดกลัวเพียงใด สำหรับพวกท่านคงเข้าใจดี รับประทานมังสวิรัตินั้นดีสำหรับนักบวชและยังดีสำหรับตัวเราเองด้วย

     ลูกศิษย์ของบรรดามหาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันล้วนไม่รับประทานเนื้อสัตว์ พวกท่านแนะนำให้ลูกศิษย์ทานมังสวิรัติก่อนจึงจะถ่ายทอดวิชาให้ พระอาจารย์ก็เหมือนกัน ใครอยากอายุยืนยาว ประทับจิตด้วยธรรมวิถีแห่งแสงและเสียงนี้ก็ต้องทานมังสวิรัติตลอด นี่เป็นข้อกำหนดก่อนที่จะเริ่มศึกษาบำเพ็ญทางจิตวิญญาณเพื่อพบพระพุทธเจ้าและบรรลุพระพุทธภาวะได้ นอกจากเป็นข้อกำหนดทางจริยธรรมแล้ว การรับประทานอาหารมังสวิรัติยังทำให้ตัวเบา สะดวกในการนั่งสมาธิ ถ้าทานเนื้อตัวหนัก อึดอัด ไม่มีสมาธิ นี่เป็นกฎง่ายๆข้อเดียวของพระอาจารย์ ผู้ใดที่ต้องการศึกษาธรรมวิถีแห่งแสงและเสียง ต้องการนั่งสมาธิทุกวัน และต้องการเพิ่มพูนปัญญาจะต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรม พร้อมกับรักษาศีล สั่งสมความรักความเมตตา โอบอ้อมอารีต่อสรรพสัตว์ เริ่มตั้งแต่ตัวเล็กๆเช่น มด จิ้งหรีด แมลง ไปจนถึง วัว หมู ไก่ เป็นต้น

     ผู้ใดอยากศึกษาธรรมวิถีนี้ต้องรับประทานมังสวิรัติตลอด พระอาจารย์ไม่ได้บังคับใครแต่ถ้าพวกท่านมีใจอยากศึกษาธรรมก็ควรยอมรับมาตรฐานแห่งจริยธรรมนี้บ้าง อย่างน้อยก็ควรแสดงความรักความเมตตาสักหน่อย ท่านคิดว่าผู้ปฏิบัติธรรมที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าวัว หมู ไก่ นั้นไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ? เราจะฆ่าโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ไม่สำคัญ ก็เป็นการฆ่าอยู่ดี มีความโหดร้ายอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้น พระอาจารย์ขอให้ผู้ที่มาหาพระอาจารย์เพื่อต้องการฝึกฝนธรรมวิถีแห่งแสงและเสียง ต้องการค้นหาเส้นทางหลุดพ้น เปิดปัญญาของตนเองนั้นจำเป็นต้องรับประทานมังสวิรัติตลอด พระอาจารย์ไม่ได้ดึงใครมาเป็นพวกเพื่อสร้างเป็นองค์กร หรือนิกายของตนเอง สำหรับผู้ที่ต้องการมีอายุยืนยาวต้องรับประทานมังสวิรัติ ไข่หรือเนื้อสัตว์นิดหน่อยก็กินไม่ได้ คนที่พร้อมทานมังสวิรัติตลอดชีวิตจึงจะเรียนธรรมวิถีนี้ได้ การรับประทานเนื้อสัตว์ มีผลเสียต่อร่างกาย แล้วจะปฏิบัติธรรมได้อย่างไร นอกจากนี้  มันยังมีผลสะท้อนถึงการพัฒนาจิตวิญญาณเราด้วย

     การปฏิบัติธรรมจำเป็นต้องมีความรัก ความโอบอ้อมอารี การทานมังสวิรัติทำให้เราสบายใจ ผัก ผลไม้ช่วยรักษาสุขภาพของเรา ทำให้เราศึกษาธรรมได้ง่ายขึ้น มีพัฒนาการมากขึ้น รู้สึกเบา เสริมสร้างสติปัญญาและพัฒนาจิตวิญญาณได้ก้าวหน้าขึ้น แล้วร่างกายของเราจะอยู่ในภาวะที่เป็นสมาธิลึกล้ำ สามารถไล่เคราะห์ร้ายออกไป และนำให้เราเข้าใกล้กับพลังของจักรวาลและความรักของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปัญญาเปิดกว้างและพัฒนาได้เร็ว การไม่ฆ่าแม้มดแมลงก็ทำให้ความกังวลในจิตใจหมดไป เรารู้สึกสบายใจ เพราะมีแต่ความรักให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายและไม่ต้องห่วงกังวลใดๆ

      พระอาจารย์เทศนามาทั้งหมดนั้นเพื่อแนะนำให้ทุกคนรับประทานมังสวิรัติ และช่วยให้พวกท่านค้นพบพระพุทธะภายใน กลายเป็นพระพุทธะ กลับสู่จิตเดิมแท้ของตนเองอย่างถาวร และแผ่แสงสว่างแห่งความเมตตาออกไป พวกท่านไม่ควรฆ่าสิ่งมีชีวิตไม่ว่ากรณีใดก็ตาม แม้แต่มดตัวเดียวก็ไม่ยกเว้น

     พวกเรารับประทานเนื้อสัตว์ เพราะความเคยชิน เพราะตั้งแต่เกิดทานอะไรก็ตามที่พ่อแม่ป้อนให้ เพราะว่าเรายังไม่รู้และไม่เข้าใจเรื่องศาสนา เรื่องหลักธรรมคำสอน หรือ คิดว่ารับประทานเนื้อสัตว์ ดีต่อสุขภาพ แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เช่นนั้น

     ประเทศเจริญแล้วหลายประเทศทั่วโลก เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา มีโรงพยาบาลใหญ่ๆมากมาย ส่วนประเทศเวียดนามและประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ผู้คนยากจน ไม่มีเงินพอจะซื้อเนื้อทาน หรืออยู่อย่างสุขสบาย ส่วนใหญ่รับประทานผัก ธัญพืช ข้าวดีเม็ดสวยๆก็เอาไปขาย เขาจะรับประทานข้าวหัก เศษข้าว แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่ดี เขาไม่ค่อยมีโรคภัยเบียดเบียน ตรงกันข้าม ประเทศสหรัฐอเมริกากลับมีโรงพยาบาล มีคลินิกเยอะ เพราะคนป่วยเยอะ คนเป็นโรคมะเร็งกันก็เยอะกว่าคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การทานมังสวิรัติมีประโยชน์จริงๆ

     พวกเราอ่าน คุยกันมากแล้วเกี่ยวกับการทานมังสวิรัติใช่ไหม?สรุปได้ว่า บรรดาผู้ปฏิบัติธรรม พระสงฆ์องค์เจ้าต่างก็ทานมังสวิรัติเพราะพวกท่านมีจิตใจเมตตาต่อสรรพสัตว์ เมื่อนึกถึงสัตว์รับความเจ็บปวด ทรมาน หวาดกลัวก่อนตาย พวกท่านก็ไม่อยากกินเนื้อ นี่ก็เป็นสาเหตุที่พระอาจารย์เลือกที่จะทานมังสวิรัติ

     ด้วยเหตุนี้ คนเราจึงควรคิดและทำความเข้าใจเรื่องนี้ พระอาจารย์ทั้งหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต่างก็พิสูจน์แล้วว่าพฤติกรรมการรับประทานอาหารมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณของมนุษย์  ดังนั้น พวกท่านจึงเข้มงวดกับเหล่าลูกศิษย์เรื่องนี้และห้ามไม่ให้ลูกศิษย์ทานเนื้อสัตว์และดื่มเหล้า การทานมังสวิรัติเป็นที่นิยมแพร่หลายในโลกตะวันออกและตะวันตกมานานนับพันปีแล้ว  และทั้งพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกและศาสนาอื่นๆก็กล่าวถึงเรื่องการทานมังสวิรัติ รวมถึงผู้ปฏิบัติธรรมตามวิถีแห่งแสงและเสียงด้วย
บรรดาศาสดาของโลกต่างก็พูดเรื่องนี้และกล่าวว่าไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม ก็ต้องรักษาการทานมังสวิรัติให้ได้ ในยุคนี้ หลายคนเข้าใจถึงผลดีของการทานอาหารมังสวิรัติ และกำลังกลายเป็นที่นิยมแพร่หลาย ร้านอาหารมังสวิรัติก็มีทั่วไปทุกหนแห่ง หนังสือเกี่ยวกับการพิทักษ์คุ้มครองสัตว์ก็มีเยอะแยะมากมาย

     พระอาจารย์ไม่ต้องพูดอะไร พวกท่านต่างก็เข้าใจถึงเงื่อนไขของการปฏิบัติธรรมแล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณ คำสอนของบรรดามหาอาจารย์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง

     พวกคนที่ฆ่าสัตว์มักรู้สึกไม่สบายใจ ในการดำเนินชีวิตที่มีแต่การแข่งขันชิงดีชิงเด่นนี้ พวกเขาทำเพื่อตอบสนองความความต้องการลูกค้าหรือเพื่อเลี้ยงปากท้อง แต่พวกเขาลืมคิดถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมไป

     ในทัศนะของพวกเขาคิดว่าการรับประทานดีกว่ารับประทานมังสวิรัติ แต่สักวันหนึ่ง พวกเขาก็จะรู้ว่าทัศนะนั้นผิด ไม่ใช่ว่าทานเนื้อสัตว์แล้วจะป่วยหรือทำให้เกิดโรคอะไร แต่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ พวกสัตว์เหล่านั้นมันไม่รู้เรื่องอะไรและสมควรได้รับความรักจากเรา พวกเราต้องปฏิบัติต่อมันด้วยความรักใคร่เอ็นดู ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ จากธรรมชาติมีมากมายเหลือเฟือ มันมีประโยชน์และมีสารอาหารอย่างครบถ้วน สวรรค์ประทานให้เราด้วยความรัก ความเมตตา พวกเราจึงควรรักษาคุณค่าเหล่านี้ไว้

     ในคำสอนของศาสนาคริสต์ก็พูดแบบเดียวกัน ตอนเด็กๆพระอาจารย์เคยศึกษาคัมภีร์ไบเบิ้ล ในนั้นบอกว่าสรรพสัตว์ทั้งปวงมีชีวิตร่วมกันด้วยความรักใคร่กลมเกลียว แต่หลายคนฆ่าสัตว์เพราะพวกเขาลืมเรื่องนี้ไป

     ถ้าพวกเราทานอาหารที่เลือกสรรอย่างดี พวกเราจะไม่รู้สึกเหนื่อย เวลาเจ็บป่วยก็ไม่หนักหนา พวกเราควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นอันตรายและมีสารพิษ มันจะทำให้สติปัญญาเราถดถอย เราต้องตรวจดูอาหารก่อนทานเพื่อไม่ให้เราอึดอัด

     เพื่อรักษาความรักและความเมตตากรุณาอันสูงส่ง ศาสนาพุทธหรือศาสนาคริสต์ก็ได้สั่งสอนว่า ไม่ให้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม (ซื้อเนื้อสัตว์มาทาน) เวลาเราปฏิบัติธรรมก็จะไม่มีความกดดัน จะเป็นอิสระ จะยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นได้ง่ายกว่า เพราะเราไม่หลงอยู่ในเงินทองหรือรสชาดของอาหารเหล่านี้

     เราควรพยายามดูแลตัวเอง และแนะนำให้ผู้อื่นทานมังสวิรัติเพื่อให้เขามีความสุขและสบายใจ ยิ่งเราสบายตัวสบายใจมากขึ้น ก็จะยิ่งรับรู้ถึงผลดีของการทานมังสวิรัติมากขึ้น เมื่อบรรดาพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ มหาอาจารย์ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ถึงร่างกายเป็นมนุษย์แต่ภายในเต็มไปด้วยพลังของจักรวาลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน พวกเขากำหนดเส้นทางให้ตนเอง ได้ศึกษาบำเพ็ญธรรมเพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริง รู้จักความงามแท้แห่งสัจธรรม เพื่อจะได้ช่วยมวลมนุษย์ให้หลุดพ้นจากวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด และนำทางเราไปสู่ธรรมชาติแห่งพระพุทธะภายใน ให้รู้จักจิตเดิมแท้ของเรา ให้รู้จักจิตวิญญาณของเราและสวรรค์ที่แท้จริง

     เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นนักบวชจึงทานมังสวิรัติ มันไม่ใช่อย่างนั้น ทุกคนก็ทานมังสวิรัติได้หากต้องการเผื่อแผ่ความรักไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย บางคนอธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงอภัยโทษแก่สรรพสัตว์ แต่กลับเป็นผู้ที่ฆ่าสรรพสัตว์อื่นแทน สรรพสัตว์คืออะไร? สรรพสัตว์คือ สิงสาราสัตว์ทั้งหมด ใช่ไหม? พวกมันก็มีชีวิต มีดวงวิญญาณเช่นกันกับเรา เมื่อเรานำเอาชีวิตมันมาสังเวยปากท้องของเรา มันไม่ขัดกับคำอธิฐานของตนเองหรือ? ดังนั้น ท่านควรหยุดทำผิดเสีย ไม่ว่าเมื่อไร พระอาจารย์ก็แนะนำตักเตือนให้ทุกคนหันมาทานมังสวิรัติตลอด เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ รักษาความงามของโลกที่สวรรค์ได้ประทานให้แก่พวกเราและสรรพสัตว์ทั้งหลาย

     นี่ก็เป็นคำตอบสำหรับบางคนที่คิดว่ามีแต่พระสงฆ์จึงทานมังสวิรัติ เขาไม่ได้บวชจะทานมังสวิรัติทำไม? แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น พระสงฆ์ก็เป็นคน พวกเราก็เป็นคน เราก็สูงส่งมีคุณค่าเหมือนกันแต่เราหลงลืมไป ทานมังสวิรัติหรือทานเนื้อมันเป็นเพียงแต่ทัศนะความคิดเท่านั้นซึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงได้ นี่เป็นหัวข้อทางวิทยาศาสตร์ที่มีการค้นคว้าวิจัยมาหลายศตวรรษแล้ว

     คำแนะนำให้พวกเราทานมังสวิรัตินั้นมีมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว แม้ว่าภาษาแตกต่างกันแต่ก็ล้วนแต่เตือนเราทานมังสวิรัติ พวกสัตว์เป็นพวกที่อ่อนแอ เราควรรักใคร่ทะนุถนอมมัน ถ้าเราอยากศึกษาธรรมต้องทานมังสวิรัติ ไม่เช่นนั้น พระอาจารย์ของท่านจะไม่ยอมรับท่านเป็นศิษย์ จิตสำนึกของท่านเองก็ไม่ยอมรับเช่นกัน สมองจะไม่สงบ ความคิดฟุ้งซ่าน พวกท่านควรศึกษาคำสั่งสอนของพระศาสดาของโลกเช่น พระเยซู พระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์ ถ้าท่านศึกษาเรื่องนี้มากขึ้น ท่านจะเข้าใจและเป็นคนดีมากขึ้น ขอให้ท่านใส่ใจเรื่องนี้และพยายามทำความเข้าใจกับมัน ถ้าท่านต้องการมีอายุยืนยาว หรือต้องการบำเพ็ญธรรมวิถีแห่งแสงและเสียง  ท่านต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ชัดเจน กฎเกณฑ์ที่พระอาจารย์อ้างถึงนี้ ไม่ใช่ข้อบังคับทางศาสนาใดๆ พระอาจารย์ไม่บังคับใคร พระอาจารย์เพียงแต่ต้องการนำความรักและสัจธรรมมาสู่ทุกคนเท่านั้นเอง