ความเชื่ออันสูงส่งในชีวิตผู้ที่รับผลกระทบจากภัยสงคราม
พระอาจารย์รูมาไปเยี่ยมหมู่บ้านพัฒนาผู้พิการ790 ที่นครหลวงเวียงจันท์ ประเทศลาว
เมื่อครั้งที่พระอาจารย์รูมาเดินทางไปเยี่ยมนครหลวงเวียงจันท์ประเทศลาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ลาว ปี 2556 พระอาจารย์ได้ไปเยี่ยมหมู่บ้านพัฒนาผู้พิการ 790 ซึ่งเป็นหมู่บ้านทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนพิการจำนวน 136 ครัวเรือน อยู่ห่างจากเวียงจันท์ 20 กม.
เช้าวันที่ 22 เมษายน 2556 ทหารผ่านศึกผู้พิการเกือบ 200 คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ พร้อมกับชาวบ้านที่นี่ได้มาชุมนุมกันตั้งแต่เช้าที่หอประชุมกลางเพื่อต้อนรับการมาเยือนของพระอาจารย์รูมา
เวลา 9 นาฬิกา พระอาจารย์รูมาพร้อมกับพระสงฆ์ชาวลาวเข้ามาที่หอประชุมท่ามกลางผู้มาต้อนรับที่ยืนเป็นสองแถว ทุกคนต่างทำความเคารพพระอาจารย์อย่างนอบน้อม เมื่อมองที่ใบหน้าและแววตาของพระอาจารย์ในขณะที่ท่านก้าวย่างอย่างช้าๆระหว่างผู้มาต้อนรับทั้งสองแถวนั้น ทุกคนสังเกตได้ว่าพระอาจารย์พยายามระงับความรู้สึกสะเทือนใจเมื่อได้เห็นผู้พิการอย่างรุนแรงมากมายที่นี่
ผู้ที่ร่วมการมาเยือนอันน่าสะเทือนใจในครั้งนี้ ได้แก่ นางศรีเฉลียว ธรรมเทวา ประธานกาชาดลาว นายเอริค ที่ปรึกษาองค์กรช่วยเหลือผู้พิการลาว นางบุญมี สมธารา ผู้อำนวยการองค์กรช่วยเหลือผู้พิการลาว ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์จากช่องลาวสตาร์ และช่องโทรทัศน์เวียดนาม VTV3 สำนักงานเวียงจันท์ และชาวลาวและเวียดนามผู้มีน้ำใจอีกมากมาย
นายกมลา ตัวแทนเหล่าทหารผ่านศึกผู้พิการกล่าวว่า “วันนี้ ทุกคนที่หมู่บ้านพัฒนาผู้พิการ790ต่างมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ต้อนรับการมาเยือนของพระอาจารย์รูมา พวกเราดีใจที่ได้ต้อนรับผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่องต่างๆและองค์กรการกุศล ในฐานะตัวแทนของผู้จัดงาน ผมขอกล่าวรายงานเพื่อให้พระอาจารย์รูมาและทุกคนเข้าใจ:ทหารผ่านศึกผู้พิการที่นี่เป็นผู้ที่ผ่านสงครามอันดุเดือดกับฝรั่งเศสและอเมริกา หทารผ่านศึกที่นี่ทุกคนต่างสูญเสียความแข็งแรงของร่างกายมากกว่า 80%ดังนั้นพวกเราจึงพยายามจัดระเบียบนโยบายสำหรับทหารผู้ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์หลังภัยสงคราม นักการเมืองและรัฐบาลลาวเป็นห่วงทหารเหล่านี้มาก จึงจัดการดูแลผู้พิการที่นี่ แต่ว่าในชีวิตจริงของพวกเขาก็ยังประสบความยากลำบากอยู่ ต่อไปพวกเราจะขอเชิญพระอาจารย์รูมาขึ้นมาบนเวทีเพื่อกล่าวกับพี่น้องทหารผ่านศึกและทุกคนที่นี่”
พระอาจารย์รูมากล่าวว่า “อรุณสวัสดิ์ทุกคน อาตมาขอกล่าว “สวัสดี” กับวีรบุรุษของชาติลาวและของโลก”
“…พวกท่านเป็นวีรบุรุษในหัวใจของประชาชนและในหัวใจของอาตมาด้วย พวกท่านมีจิตใจอันสูงส่ง รักษาอิสรภาพและสันติภาพให้กับประชาชนชาวลาวและประเทศเวียดนามซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ไม่เคยลืมสิ่งที่พวกท่านได้ทำและพระองค์จะช่วยเหลือพวกท่านทั้งหลายอยู่เสมอ ความเสียสละของพวกท่านเป็นน้ำใจอันใหญ่หลวงต่อประเทศชาติของพวกท่านคือประเทศลาว นำสันติสุขและอิสรภาพมาสู่ประเทศ อาตมาคิดว่าทุกคนจดจำการรับใช้ชาติอันสูงส่งของพวกท่านไม่มีวันลืม พวกท่านเป็นวีรบุรุษในหัวใจของอาตมา อาตมาจะไม่ลืมความเสียสละของพวกท่าน วันนี้อาตมามาที่นี่พร้อมกับของขวัญเล็กๆน้อยๆที่แสดงถึงความรักความเมตตาของอาตมาที่จะอยู่เคียงข้างพวกท่านตลอดเวลา
สงครามเป็นเรื่องโหดร้ายทารุณ สงครามเป็นกรรมของมวลมนุษย์ ในขณะนี้ประเทศลาวได้มีสันติภาพและเจริญรุ่งเรือง ศตวรรษที่ 21ได้มาถึงแล้ว ไม่มีสงครามอีกแล้ว พวกท่านเสียสละมามากพอแล้ว อาตมามาที่นี่เพื่ออธิษฐานให้พวกท่านทั้งหลายมีชีวิตที่สงบสุข ของขวัญเหล่านี้มาจากเงินที่อาตมาและลูกศิษย์เก็บสะสมไว้เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนพวกท่าน
อาตมาอยากบอกว่า: การเสียสละของพวกท่านเป็นสิ่งที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ พวกท่านเป็นเทวดาที่มายังโลกมนุษย์เพื่อให้ความสวยงามแก่โลกมนุษย์ รักษาความสงบสุข อิสรภาพและนำความรักความเมตตาลงมาให้มนุษย์ ความเสียสละและความสูญเสียของพวกท่านได้ปลุกให้โลกตื่นขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์รับรู้ถึงความเลวร้ายและโหดเหี้ยมของสงคราม ดังนั้นการเสียสละของพวกท่านแสดงให้โลกได้รู้จักคุณค่าและรักษาความสงบสุขในชีวิตเรา พวกท่านเป็นวีรบุรุษในดวงใจชาวลาวและชาวเวียดนาม อาตมาเชื่อว่าจะไม่มีใครลืมพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านควรจะทำจิตใจให้สงบและยอมรับความลำบากที่เข้ามาในชีวิตพวกท่าน
วันนี้ พระสงฆ์ชาวลาวและอาตมามาที่นี่ เพื่อมอบความรักความเมตตาจากจักรวาล พระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ให้แก่เหล่าวีรบุรุษ อาตมามาเพื่อปลอบประโลมพวกท่านด้วยธรรมะ การเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีเหตุและปัจจัย การสวมใส่ร่างกายมนุษย์ทำให้พวกเรามีแต่ความไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัยและไม่เคยพบความสมบูรณ์แบบ การเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์มีแต่ความทุกข์ยากและวัฏสงสาร เป็นเพราะกรรม ความโหดร้ายของมนุษย์ได้กักขังดวงวิญญาณพวกเขาให้เสื่อมโทรมอยู่ในคุกของร่างกายมนุษย์ มนุษย์มักเก็บความทุกข์ไว้กับตัวเอง มักเก็บกรรมไว้ ดังนั้น จึงมีสงครามและความขัดแย้งกันเอง ทุกอย่างเป็นเพราะกรรมจึงทำให้เกิดสงครามนี้ขึ้น ไม่มีประเทศใดหรือใครที่ต้องการก่อสงคราม สงครามเป็นผลจากกรรม และทำให้มีผู้รับเคราะห์กรรมจากสงคราม
อาตมาขออธิษฐานให้ชาวลาวและวีรบุรุษผู้พลีชีพในสงครามและวีรบุรุษผู้รอดชีวิตจากสงครามซึ่งกำลังใช้ชีวิตในโลกนี้ให้มีชีวิตที่สงบสุขและได้รับความคุ้มครองจากจักรวาล
ถึงแม้ว่าอาตมาและเหล่าพระสงฆ์จะมาที่นี่พร้อมกับมอบสิ่งของเล็กๆน้อยๆที่พวกท่านอาจใช้ไม่กี่วันก็หมด แต่การมาเยือนของอาตมาเป็นการแสดงถึงความรักและความเมตตาจากจักรวาลที่มอบให้พวกท่าน พวกท่านจะไม่ต้องมีชีวิตที่ยากจน ลำบากหรือเจ็บไข้ได้ป่วยอีกเลย
อาตมาไม่รู้ว่าล่ามแปลดีหรือเปล่าเพราะว่าพวกท่านดูงงๆ บางทีสงครามอาจเกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิด เพราะว่าถ้าการแปลผิด สงครามอาจเกิดขึ้นได้” (พระอาจารย์ยิ้ม)
พวกท่านไม่รู้ว่ามนุษย์มีกำแพงด้านภาษา สงครามเกิดขึ้น โรคระบาดและมหันตภัยเกิดขึ้นกับมนุษย์เพราะว่ามนุษย์ไม่เข้าใจภาษาคนอื่น บางคนพูดภาษานี้ บางคนพูดภาษานั้น สงครามอาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ สองประเทศสู้รบกันเพื่อสิ่งที่ไม่มีใครทั้งสองฝ่ายเข้าใจ ดังนั้นกรรมก็เกิดขึ้นที่นั่น ตอนนี้พวกเราต้องรู้จักยอมรับมันและพอใจกับมัน อาตมาหวังว่าพวกท่านจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในชีวิตของพวกท่านอย่างดีและแข็งแรง เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกรรมและเหตุปัจจัยที่นำความโชคร้ายมาสู่มนุษย์
ยังมีอีกโลกหนึ่งที่ไม่มีเคราะห์หรือกรรมใดๆ ไม่มีใครในโลกมนุษย์นี้เคยก้าวไปถึง โลกนั้นไม่มีความทุกข์ ไม่มีสงคราม ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีแค่ภาษาเดียวโดยไม่ต้องมีล่ามแปล พอสิ้นอายุขัยพวกท่านแล้ว ถ้าใครไม่อยากเกิดเป็นมนุษย์อีก อาตมาจะนำพวกท่านไปยังโลกนั้น นั่นเป็นสวรรค์ที่สวยงาม ไม่มีความทุกข์ยากหรือเข้าใจผิด สถานที่นั้นใช้ภาษาเดียว นี่เป็นเรื่องยากที่พวกท่านจะเชื่อใช่ไหม? เพราะว่าสิ่งเหล่านี้อยู่เหนือการรับรู้ของสมองมนุษย์ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ เป็นเพราะสมองมนุษย์เห็นแค่จากที่นี่ถึงกำแพงเท่านั้น ไม่เห็นไกลกว่านั้นได้อีก แต่ดวงตาของพระพุทธะสามารถมองเห็นได้ไกลมาก อาตมาบอกแล้วว่าพวกท่านเป็นวีรบุรุษในดวงใจอาตมา เมื่อพวกท่านอายุได้ 100 ปี และใกล้สิ้นอายุขัยแล้ว อาตมาจะมารับและนำพาพวกท่านไปยังโลกอันสงบสุข และไม่ให้พวกท่านต้องเจ็บปวดกับสงครามอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องก่อสงครามทำให้สูญเสียอวัยวะใดอีก
วันนี้ อาตมามาที่นี่ด้วยหัวใจของพระสงฆ์ นำเอาของขวัญเล็กๆน้อยๆมาให้พวกท่าน เป็นการปลอบใจจากหัวใจของอาตมาให้แก่พวกท่าน ถึงแม้อาตมารู้ว่าไม่มีอะไรสามารถชดเชยการเสียสละเพื่อประชาชนเพื่อชาติของพวกท่านได้ การเสียสละของพวกท่านช่างสูงส่งยิ่งนัก นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆให้แก่พวกท่าน ได้โปรดรับไว้ด้วย อาตมาขอแนะนำว่า: ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเหตุและปัจจัย ทุกอย่างเป็นเพราะกรรม นำการเกิดแก่เจ็บตายมาให้เราในขณะที่พวกเราอยู่ในโลกมนุษย์นี้โดยไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้ ทำให้เราไม่รู้จักสันติภาพและความสงบสุข รวมถึงการหลุดพ้น
อาตมาและลูกศิษย์จากทุกที่ในเวียดนามมีของขวัญเล็กน้อยและทุนนิดหน่อยจะมอบให้พวกท่าน สิ่งนี้มาจากใจของอาตมาและลูกศิษย์ หวังว่าจะช่วยชดเชยความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของพวกท่านได้สักเล็กน้อย
อาตมาหวังว่าวันหนึ่งอาตมาจะได้พบพวกท่านอีก ขออวยพรปีใหม่ให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ช่วยเหลือพวกท่านทุกคนเสมอ ถ้าพวกท่านเชื่อว่าอาตมาอยู่ใกล้พวกท่านเสมอแล้วให้อาตมาอยู่ในหัวใจพวกท่าน
อาตมาจะใช้บุญของอาตมาช่วยเหลือพวกท่านให้มีชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขด้วยความรักความเมตตาจากจักรวาล เมื่อถึงจุดจบของชีวิตพวกท่าน อาตมาจะมารับและนำพวกท่านไปสู่โลกแห่งสันติภาพและนิพพาน พวกท่านจะไม่ต้องมีความทุกข์ เจ็บป่วยหรือสงครามอีก ถ้าพวกท่านอยากเป็นมนุษย์อีก พวกท่านจะไม่ต้องพบสงครามหรือพิการเช่นนี้อีก พวกท่านจะมีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อชดเชยสิ่งที่พวกท่านได้เสียสละในชีวิตนี้ พวกท่านจะได้รับผลตอบแทนจากจักรวาล และจะมีชีวิตที่สุขสบาย
ขอบคุณที่สละเวลามาฟังเทศนาหลักธรรมะง่ายๆในวันนี้ อาตมาขออธิษฐานอีกครั้งให้พวกท่านเหล่าวีรบุรุษสงครามทั้งหลายที่นี่ให้ได้รับพรและความคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ อมิตาพุทธ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ…”
ตัวแทนของหมู่บ้านพัฒนาผู้พิการ790ได้กล่าวตอบแทนน้ำใจพระอาจารย์ว่า:
“กราบนมัสการพระอาจารย์รูมา
เรียนท่านผู้ทีเกียรติทุกคนในที่นี้
วันนี้ พวกเรามีความยินดีที่ได้มารวมกันที่นี่และได้รับฟังธรรมเทศนาจากพระอาจารย์รูมา คำสอนและหลักธรรมที่พระอาจารย์มอบแก่พวกเรามีความหมายอย่างมากต่อชีวิตพวกเรา นั่นเป็นแนวทางและแสงไฟที่ได้จุดขึ้นส่องทางให้พวกเราก้าวเดินไป ธรรมเทศนาของพระอาจารย์รูมาเป็นกำลังใจอันมีค่าสำหรับพวกเราทุกคน พวกเราเชื่อว่าชีวิตที่เหลือของพวกเรายังมีความหวัง พวกเราจะทำตามที่พระอาจารย์รูมาแนะนำ และสัญญาว่าพวกเราจะนำคำสอนและหลักธรรมไปปฏิบัติตามในการดำเนินชีวิต สุดท้ายนี้ ไม่มีสิ่งใดมีค่าพอที่จะแสดงคำขอบคุณพระอาจารย์รูมาจากพวกเราได้ พวกเราขออธิษฐานให้พระอาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงและประสบความสำเร็จในการช่วยสรรพสัตว์ให้หลุดพ้น พวกเราหวังว่าวันหนึ่งพวกเราจะได้มีโอกาสพบพระอาจารย์อีก ขอบคุณทุกคนที่นำของขวัญมามอบให้และหวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพแข็งแรง”
ก่อนกลับ พระอาจารย์รูมาเดินไปทั่วหอประชุมเพื่อจับมือทุกคนผู้มีบาดแผลจากสงคราม ความเมตตาและคำพูดของพระอาจารย์รูมาได้ปลุกจิตวิญญาณของผู้ที่มีชีวิตด้วยความทุกข์ระทมมาเป็นเวลานานให้ตื่นขึ้น
“อาตมาเป็นพระสงฆ์ที่ไม่มีอะไรจะให้นอกจากหัวใจ ความรักและความเมตตาของอาตมา นี่เป็นมะม่วงที่แทนความรักความเมตตาของอาตมา ถึงแม้ว่าจะลูกเล็กๆแต่ก็เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตาของอาตมาและพระสงฆ์ที่เป็นตัวแทนเหล่าญาติธรรมทั้งหลาย พวกท่านทานมะม่วงนี้แล้วพวกท่านจะไม่ต้องทุกข์อีกชาติแล้วชาติเล่า
ภาพที่พระอาจารย์รูมาและชุมชนทหารผ่านศึกผู้พิการในหมู่บ้านได้ถ่ายร่วมกันก่อนพระอาจารย์จะกลับได้สั่นไหวหัวใจของทุกคนที่ได้เห็นแม้เพียงครั้งเดียว พวกเราเชื่อว่าภาพนี้จะคงอยู่ตลอดไปแม้เวลาจะผ่านไปและกลายเป็นสัญลักษณ์ของความคุ้มครองเพื่อสันติภาพของโลก
พวกเราหวังว่าผู้ที่ต้องทนทุกข์จากภัยสงครามเช่นวีรบุรุษผู้พิการเหล่านี้จะได้มีโอกาสพบพระอาจารย์ผู้รู้แจ้งแห่งยุคศตวรรษที่ 21 พระอาจารย์รูมาเพื่อที่ดวงวิญญาณของพวกเขาจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่หลงเหลือจากสงคราม เพื่อที่ชีวิตของพวกเขาจะหลุดพ้นถึงแม้ยังมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์อยู่ในชีวิตนี้
พวกเราหวังว่าบทความสั้นๆนี้จะมีส่วนช่วยปลุกจิตสำนึกอันดีงามของมนุษย์ให้ตระหนักว่าสงครามที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์มาว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามนั้นไม่มีความหมาย โหดร้ายที่สุด สร้างกรรมหนักและนำไปสู่ความทุกข์ในหลายชั่วคน
มนุษย์ควรมีความรักและให้อภัยความผิดพลาดของตัวเอง สร้างโลกแห่งความรัก ความเมตตาและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นี่เป็นข้อความจากจักรวาลที่พระอาจารย์รูมาส่งถึงพวกเรา
เงินทุนและของขวัญที่พระอาจารย์นำมาให้แก่หมู่บ้านพัฒนาผู้พิการ790รวมมูลค่า 4,000 เหรียญสหรัฐฯ