[email protected]
หน้าแรก
สมาธิแสงและเสียง
วิธีปฏิบัติ
การประทับจิต
ศีลห้า
พระอาจารย์รูมา
ประวัติพระอาจารย์
สารจากพระอาจารย์
น้ำใจพระอาจารย์
ข้อมูลข่าวสาร
วีดีโอ
หนังสือ
เทศนา
ศิลปะสูงสุด
มังสวิรัติ
ทำไมต้องทานมังสวิรัติ
สูตรอาหารมังสวิรัติ
ดาวน์โหลด
แผ่นพับ
ไฟล์เสียง
ติดต่อเรา
วิธีปฏิบัติ
การประทับจิต
ศีลห้า
การประทับจิต
การประทับจิตเป็นอย่างไร?
การประทับจิตไม่มีอะไรลึกลับ เวลาประทับจิตพระอาจารย์รูมาจะช่วยพวกเราเปิดปัญญาพระพุทธะอยู่ภายใน พวกท่านจะรับรู้ถึงพลังที่ไม่มีขอบเขตของพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ เวลาประทับจิตพระอาจารย์รูมาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นั่น ลูกศิษย์ของพระอาจารย์ก็สามารถถ่ายทอดได้ พระอาจารย์อาจจะมาด้วยกายทิพย์ พระพุทธะที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบสามารถแบ่งกายทิพย์เป็นหลายพันร่าง ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดก็จะมีนิรมาณกายของพระอาจารย์ได้
พระอาจารย์รูมาอาจแต่งตั้งให้ศิษย์คนใดคนหนึ่งทำหน้าที่แทนพระอาจารย์เพื่ออธิบายให้พวกท่านเข้าพิธีประทับจิต แต่ผู้ประทับจิตให้พวกท่านคือพระอาจารย์รูมา ไม่ว่าพระอาจารย์จะอยู่แห่งหนใด พวกท่านก็สามารถเห็นปรากฏการณ์ทางจิตวิญญาณและพิสูจน์ความมหัศจรรย์แห่งพลังภายในได้
เวลาประทับจิตพลังมหาศาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าจะส่งผ่านพระอาจารย์มาเปิดปัญญาพุทธะที่สูงสุดภายในของศิษย์ พระอาจารย์จะชี้แนะถึงวิธีนั่งสมาธิ และเรื่องจำเป็นในการศึกษาบำเพ็ญให้กับพวกเรา พระอาจารย์จะจัดพวกท่านเข้าในหมวดหมู่พระอริยะเจ้า นำจิตวิญญาณของพวกท่านหลอมเข้ากับแสงสว่างของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธเจ้าจะปกป้องและนำพาศิษย์ของพระอาจารย์เข้าไปถึงจิตวิญญาณสูงส่งที่สว่างไสวของท่าน พระอาจารย์จะเดินทางไปพร้อมๆกับศิษย์ตลอดเส้นทางกลับสู่บ้านเดิม จนถึงวาระที่ศิษย์ละทิ้งร่างกายหยาบนี้ และช่วยจิตวิญญาณเขาให้หลุดพ้นจากสามโลก
ประทับจิตคือนาทีศักดิ์สิทธิสุดในชีวิตผู้ศึกษาบำเพ็ญ ในเวลานั้นจิตวิญญาณของศิษย์จะฟื้นคืนชีพและหลอมรวมกับความเมตตากว้างใหญ่ไพศาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยผ่านเสียงมหัศจรรย์ที่ลึกซึ้งของจักรวาล ภายในเขาค่อยๆก้าวหน้าและเป็นเอกภาพกับพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธะในยุคนี้ เป็นผู้มีภาระหน้าที่สูงส่งที่สวรรค์ได้เลือกลงมาในโลกมนุษย์ นำพาสรรพสัตว์ที่มีความจริงใจอยากศึกษาบำเพ็ญ หวังอยากหลุดพ้นเพื่อกลับคืนบ้านที่แท้จริงของตน
พระอาจารย์รูมาประทับจิตให้ศิษย์ในความเงียบสงบของจิต (จิตสู่จิต) เบื้องต้นพระอาจารย์จะพูดคุยกับพวกท่านเพื่อให้พวกท่านรู้สึกเป็นกันเอง และถือท่านเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อให้จิตวิญญาณของพวกท่านรู้สึกสบาย ลืมความกังวลและอคติที่ติดตัวเรามาหลายชาติไป แต่เวลาประทับจิตกระทำในความเงียบ ไม่ได้ใช้เสียงใดๆ พระอาจารย์จะไม่ใช้ภาษาใดเพื่อชี้แจง แต่พวกท่านจะได้รับพลังที่ไร้ขอบเขตของพระพุทธะ
พระโพธิสัตว์และพลังความเมตตาที่สูงส่งของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระอาจารย์จะส่งพลังให้เราผ่านการศึกษาบำเพ็ญทุกวัน
ด้วยบุญกุศลและพลังของพระพุทธเจ้าผลักดันอยู่ภายในเรา เวลานั้นจิตวิญญาณเราถูกชำระล้าง เราจะเข้าใจพระธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าปรากฏอยู่ภายในของเราทุกเมื่อ แต่เพราะพวกเราถูกกักขังอยู่ในความคิดของอคติ และนิสัยความเคยชินแต่หลายชาติ ฉะนั้นพวกเราไม่ได้ยินเสียงมหัศจรรย์ และไม่เห็นแสงสว่างพระธรรมนี้
เวลาพวกท่านได้รับการประทับจิตจากพระพุทธะแห่งยุคปัจจุบันแล้ว พวกท่านก็ต้องฝึกฝนบำเพ็ญพุทธปัญญาภายในของเราต่อไป ต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ต่อพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ก่อนจะประทับจิต เวลาประทับจิตพวกท่านเพียงแต่เริ่มต้นรับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ของตนเองเท่านั้น ต้องได้ขุดค้นเพิ่มเติมอีก เส้นทางศึกษาบำเพ็ญของเรายังอีกยาวไกลยิ่งนัก ไม่ควรสิ้นเปลืองเวลาทุกนาที
พระอาจารย์รูมากล่าวว่า: “ประทับจิตแท้จริงแล้วไม่ใช่ประทับจิต พระอาจารย์มีแต่มาเพื่อช่วยให้พวกท่านเข้าใจเกี่ยวกับตัวเอง ช่วยพวกท่านรับรู้ปัญญายิ่งใหญ่ของตนเอง ไม่ใช่ต้องการให้พวกท่านมาเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ พระอาจารย์เพียงแต่อยากช่วยชี้แนะให้พวกท่านพิสูจน์สิ่งมหัศจรรย์ของโลกจิตวิญญาณเท่านั้น” ท่านชี้แนะให้พวกเราเสาะหาพระพุทธะภายในและเป็นพระพุทธะด้วยตนเอง ให้พวกเราเสาะหาเส้นทางหลุดพ้น ช่วยให้พวกเรารู้จักตัวตนที่แท้จริง หากลูกศิษย์ตั้งใจศึกษาบำเพ็ญด้วยความจริงใจ พระพุทธะจะชำระล้างกรรม พลังลึกซึ้งซึ่งวิเศษสุดนี้ก็คือเสียงมหัศจรรย์ ที่ประทับอยู่ภายในของพวกเราตลอดเวลา เสียงมหัศจรรย์ก็คือพระผู้มีพระภาคเจ้าหรือพระพุทธะภายในของพวกเรา กรรมของสรรพสัตว์ถูกชำระล้างให้สะอาดด้วยเสียงมหัศจรรย์ที่พระพุทธะได้นำมาให้พวกเรา
ผู้ใดที่จริงใจต้องการประทับจิตต้องทานมังสวิรัติตลอดชีวิต ไข่นิดหน่อยก็ทานไม่ได้ (รวมทั้งไข่ที่ไม่ได้ผสม) สุรานิดหน่อยก็ไม่ดื่ม เมื่อพวกท่านประทับจิตแล้ว หมายความว่าพวกท่านได้เดินบนเส้นทางแห่งความเมตตากรุณา ปฏิบัติตามมาตรฐานและคุณสมบัติอันสูงส่งของสังคม เมื่อขอรับประทับจิตเข้าสู่ธรรมวิถีแห่งแสงและเสียงนี้ พวกท่านต้องทานมังสวิรัติมาระยะหนึ่งก่อน อย่างต่ำ 3 เดือนขึ้นไป และไม่ใช้วิชาอาคม ไม่ดูหนังที่มีลักษณะรุนแรง หรือหนังสือ สื่อลามก ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ถึงแม้ว่าสัตว์นั้นตัวเล็กแค่ไหนก็ตาม พวกเราต้องมีจิตใจที่ให้อภัย ใจกว้าง ดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์และรักใคร่มนุษยชาติทั้งหมด อาชีพต้องบริสุทธิ์ ถ้าพวกเรายังติดพันกับปัญหาฆ่าสัตว์ตัดชีวิต กินคาว กินเหล้า จะเป็นผลสะท้อนมากถึงบรรดาจิตวิญญาณ นี่คือกฎพื้นฐานที่ผู้ประทับจิตต้องตระหนักไว้
เวลาศิษย์คนหนึ่งตั้งใจศึกษาบำเพ็ญ ชีวิตของเขาจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น ความโลภจะค่อยๆหมดไป เวลานั้นจิตใจจะใสสะอาดและบริสุทธิ์เหมือนเด็ก ปรากฏการณ์ภายในของศิษย์จะพิสูจน์คำสอนของพระอาจารย์เอง
เวลาพวกเรามีชีวิตจิตวิญญาณที่ใสสะอาดเหมือนพระพุทธะ พวกเราจะรู้สึกเบาและมีความสุข เพราะเสียงมหัศจรรย์จะขับไล่อวิชชาอันมืดมนที่ปิดกั้นอยู่ภายในของเราออกไป และเปิดปัญญาพุทธะของเรา
การดำเนินชีวิตอย่างมีระเบียบวินัยทางด้านจิตวิญญาณและขาวสะอาดมีความหมายอันสำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่มีอุดมการณ์สูงส่ง เป็นพาหนะช่วยให้เราปฏิบัติสมาธิโดยวิธีเสียงมหัศจรรย์ ปัญหานี้จะสำเร็จได้เวลาศิษย์ปฏิบัติสมาธิร่วมกับพระพุทธะของยุค
ถ้าแต่ละวันพวกเราพยายามศึกษาบำเพ็ญ คิดถึงพระพุทธะในตัวของเราเองเรื่อยๆ ชีวิตนี้เราจะรู้แจ้งเร็ว พวกเราจะได้รับความช่วยเหลือจากพระอาจารย์ เวลานั้นการศึกษาบำเพ็ญของพวกเราจะก้าวหน้าขึ้น แต่ตรงกันข้าม หากพวกเราละเลย พวกเราจะค่อยๆลืมการรู้แจ้งไป เวลานั้นระดับความรู้ของพวกเราจะหยุดอยู่ที่นั่น
ธรรมวิถีแห่งแสงและเสียงนี้ ใครๆก็ศึกษาบำเพ็ญได้ ไม่ว่าจะเป็นสงฆ์หรือฆราวาส แต่ละวันพวกท่านพยายามนั่งสมาธิประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อจดจำปัญญาพุทธะที่ลึกซึ้งของเรา สื่อสารกับพลังของจักรวาล และกับพลังแห่งพระผู้สร้าง
การเทศนาทั้งหมด การประทับจิตของพระอาจารย์รูมาล้วนไม่มีค่าใช้จ่าย มีแต่เรียกร้องให้พวกท่านทานมังสวิรัติตลอดชีพ รักษาศีล 5 และทำสมาธิทุกวัน
ในโลกนี้ไม่มีภาษาใดจะบรรยายถึงความยิ่งใหญ่ของพระพุทธะองค์ใดองค์หนึ่งได้ ท่านช่วยศิษย์เปิดจักษุปัญญาและเชื่อมต่อจิตวิญญาณของศิษย์กับเสียงมหัศจรรย์ เปิดประตูสวรรค์ภายใน เวลานั้นพวกเราจะเห็นแสงสว่างแห่งพระธรรมและรับรู้ถึงเสียงมหัศจรรย์ที่ไหลเวียนอยู่ภายในของเรา ครั้งแรกสมองพวกเราไม่สามารถสำนึกได้ถึงความลึกลับนี้ แม้แต่ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 21 นี้ก็ไม่นึกไม่ฝันได้ถึงพลังเหนือโลกของพระพุทธะ ที่นำเสียงมหัศจรรย์ลงสู่โลกมนุษย์ นำพาสรรพสัตว์กลับสู่แหล่งกำเนิดของตน ก้าวสู่ระดับพระผู้มีพระภาคเจ้า หลอมรวมกับพระผู้มีพระภาคเจ้า และเป็นเอกภาพกับพลังความเมตตาอันสูงส่งของพระพุทธเจ้า พระพุทธะมาจากสวรรค์ เวลาทำหน้าที่สำเร็จก็จะกลับคืนสวรรค์
พวกเราบรรดาศิษย์ของพระอาจารย์รูมาได้เก็บรวบรวมธรรมเทศนาของพระอาจารย์ รับรู้ได้ถึงความสูงส่งของธรรมเทศนาแหล่านี้ พวกเรามีความจริงใจ ต้องการศึกษาพระธรรม และหวังการหลุดพ้นในชาติเดียว
พวกเราเหล่าสานุศิษย์ทราบว่า: “เป็นคนนี้ยาก ภาษาพุทธะฟังยาก พบพระพุทธะนี้ยิ่งยาก” พวกเราโชคดีมีบุญวาสนาได้พบพระอาจารย์รูมา พระพุทธะของยุคผู้ได้มอบธรรมวิถีอันสูงสุดให้พวกเรา นำพาจิตวิญญาณพวกเรากลับสู่แหล่งกำเนิด
พวกเราทราบว่า การเดินทางเสาะหาพระธรรมของพระอาจารย์สุดแสนลำบาก ยากแค้น เพื่อค้นหาธรรมวิถีอันยิ่งใหญ่สูงสุดนี้ พวกเราขออนุญาตพระอาจารย์ให้พวกเราได้เก็บรวบรวมบรรดาบทเทศนาของพระอาจารย์ในแต่ละครั้งที่พระอาจารย์ไปทุกหนแห่งเพื่อช่วยให้ผู้มีใจใฝ่หาธรรม หวังพบพระธรรมที่ถูกต้องแท้จริง ได้สมหวังในการศึกษาบำเพ็ญ บรรลุพุทธะในหนึ่งชั่วชีวิต
ขอขอบคุณพระอาจารย์ที่เคารพรักของพวกเราด้วยความจริงใจ
ประเภทรายการ
ทั้งหมด
พระอาจารย์เทศนา
น้ำใจพระอาจารย์
ข้อมูลข่าวสาร
วีดีโอ
หนังสือ
บทความ
ศิลปะสูงสุด
สูตรอาหาร
ค้นหา
“ธรรมวิถีแห่งแสงและเสียงเป็นวิธีการทำสมาธิทางจิตวิญญาณที่เพ่งพิจารณากระแสพลังภายในของพวกเรา ด้วยการฟังกระแสเสียงภายใน แสงและเสียงนั้นมาจากสวรรค์ แสงสว่างแสดงถึงการรู้แจ้ง เวลานั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสว่างหมายความว่าเรารู้แจ้ง แสงนี้มาจากภายในตัวเรา เพราะแสงและเสียงภายในนี้ พวกเราจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับสวรรค์ได้ พวกท่านจะสัมผัสประสบการณ์นี้ได้เมื่อพวกท่านได้รับประทับจิต”
“สวรรค์อยู่ภายในตัวเราตลอดเวลา แต่เพราะว่าพวกเราถูกกักขังในขุมนรกของความคิด อคติและความเคยชินตั้งแต่ชาติแล้วชาติเล่า ฉะนั้น พวกเราจึงไม่สามารถได้ยินเสียงและเห็นแสงแห่งพระธรรม ดังนั้น พระพุทธเจ้าจะเป็นผู้ช่วยขจัดความมืดมนที่ปิดบังปัญญาภายในของตนมาตั้งหลายพันกัปป์ให้หมดไป”
“เมื่อท่านนั่งสมาธิทุกวันและรับประทานแต่อาหารมังสวิรัติและยึดมั่นในศีลห้า ท่านจะกลายเป็นเสมือนแสงหนึ่งที่สาดส่องโลกใบนี้ และวันหนึ่งจะมีแสงหลายแสง และทั่วทั้งโลกจะอาบไปด้วยแสงสว่างและเปี่ยมด้วยความรักและความเมตตา จะไม่มีความขัดแย้งและสงครามเกิดขึ้นบนโลก มวลมนุษยชาติจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและสันติ นี่เป็นคำอธิษฐานของอาตมาสำหรับมวลมนุษยชาติ นี่คือจุดมุ่งหมายในชีวิตของอาตมา”
“ท่านสามารถปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนได้ง่ายขึ้น ถ้าท่านผสานชีวิตในการทำงานและจิตวิญญาณภายในของท่านให้สอดคล้องกัน หากท่านไม่ปฏิบัติตามกฎ(ศีล)ทั้งห้าข้อนี้ ก็จะยากที่จะบรรลุผลในการบำเพ็ญ”
“จุดประสงค์ในการปฏิบัติตามศีลห้านั้น คือการชำระล้างกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ ทั้งในการติดต่อสื่อสาร ในความรู้สึกนึกคิด และ การกระทำของท่านในแต่ละวัน ท่านจะต้องรอบคอบและมีสติในทุกด้าน และควรละเว้นในการทำสิ่งที่ผิด พวกเราควรปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตาอันสูงส่ง ปัญญาอันแจ่มแจ้ง ความรักอันใหญ่หลวง และด้วยการกระทำ และ ความคิดอันบริสุทธิ์ นี่เป็นวิถีของผู้ศึกษาธรรมะที่แท้จริง”
“ถ้าท่านต้องการปฏิบัติตามศีลทั้งห้าข้ออย่างถูกต้อง ท่านต้องมีความสงบในจิตใจ ทุกวันพวกเราต้องหมั่นสำรวจสิ่งสำคัญทั้งสามด้าน คือ กาย วาจา ใจ ในเรื่องของ “ความคิด คำพูด และการกระทำ” และ ตรวจสอบว่าศีลของท่านบริสุทธิ์หรือไม่ พวกเราควรมีความจริงใจต่อตัวของเราเอง ต่อพ่อแม่ คู่สมรส ลูก เพื่อน เพื่อนบ้าน และทุกคนที่เราพบ”
“เมื่อท่านทำผิดพลาด ท่านควรยอมรับและสารภาพอย่างจริงใจต่อตัวท่านเอง การสารภาพไม่ได้หมายถึงท่านจะถูกลงโทษหรือต้องได้รับการชดใช้ แต่จะทำให้ท่านมีสติและความพยายามเข้าใจว่าอะไรที่ท่านทำผิดพลาดไป อะไรที่ท่านควรจะแก้ไข และท่านจะหลีกเลี่ยงในการทำสิ่งที่ผิดในวันข้างหน้าได้อย่างไร นี่เป็นความคิดที่นำไปสู่หนทางแห่งการรู้แจ้ง”