เทศนา
การมาเยือนของพระพุทธะ: ของขวัญล้ำค่าสำหรับสรรพสัตว์
พระอาจารย์รูมาเทศนาที่สมาคมคนพิการ จังหวัดนครพนม
ประเทศไทย

31 ตุลาคม 2557

 

พระอาจารย์รูมา:
สวัสดีทุกคนพระอาจารย์ขอโทษที่ทำให้พวกท่านรอนานแต่ไม่เป็นไรหรอกนะ พวกท่านก็รอพระอาจารย์มาหลายชาติแล้ว พวกท่านมาที่โลกนี้และรอคอยมาหลายต่อหลายชาติ สวมใส่ร่างกายที่มีแต่กรรม ไม่เป็นสุข มีแต่ทุกข์แต่พวกท่านก็ยังรอได้ รออีกหน่อยไม่เป็นไรใช่ไหม?
ตอนนี้พระอาจารย์ก็มาที่นี่แล้ว ชาตินี้พวกท่านจะหมดทุกข์แล้ว หมดสิ้นความโชคร้าย หมดสิ้นความพิการ ชาติหน้าท่านจะมีชีวิตที่สุขสบาย สันติ ไม่ต้องมามีร่างกายพิการ ต้องทุกข์และเหงาเปล่าเปลี่ยว

เพราะว่าในชาติก่อนพวกท่านไม่ได้รู้จักเรื่องคุณงามความดี ไม่มีใครแนะนำพวกท่าน เพราะฉะนั้นพวกท่านจึงเดินทางผิด ชาตินี้พวกท่านกลับมาใหม่ พวกท่านจึงต้องชดใช้กรรมเหล่านั้น พระอาจารย์พูดกับเจ้าแห่งกฎแห่งกรรมแล้ว ชาติหน้าพวกท่านจะไม่ต้องเกิดมาทุกข์อีก

พระอาจารย์มาที่นี่เพื่อบอกให้พวกท่านรู้ล่วงหน้า พวกท่านจะได้ดีใจ ถ้าชาติหน้าพวกท่านกลับมาใหม่ พวกท่านจะมีอวัยวะครบถ้วน แข็งแรง มีความสุข หน้าตาดีและร่ำรวย เพราะท่านทุกข์มาหลายต่อหลายชาติแล้ว นั่นมันพอแล้ว

ทุกอย่างเกิดจากกรรม ที่พวกท่านสร้างไว้ในอดีตชาติ ชาตินี้พวกท่านจึงต้องกลับมารับผลกรรมเหล่านั้น ถึงแม้ว่าพวกท่านจะลืมพระอาจารย์แต่พระอาจารย์ยังจำพวกท่านได้ ถึงแม้ว่าพวกท่านจะอยู่ในที่ห่างไกลเช่นนี้ พระอาจารย์ก็ยังต้องมาที่นี่เพื่อบอกกับพวกท่านว่า พวกท่านจะสิ้นสุดความพิการ สิ้นสุดความทุกข์ ความอดอยาก ความผิดหวัง และความเหงาเปล่าเปลี่ยวใจลงในชาตินี้ เหมือนคำกล่าวที่ว่า“ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน” ไม่มีใครทุกข์ไปตลอดหรอก

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชาตินี้ ที่ทำให้ร่างกายของพวกท่านไม่สมบูรณ์ ไม่สะดวกสบาย ก็เป็นเพราะกรรมที่พวกท่านทำในชาติก่อน ชาตินี้พวกท่านต้องแบกรับมัน พวกท่านควรประพฤติดี ใช้ชีวิตที่ดีและมีความสุขในชีวิตที่เหลืออยู่ มีความสุขกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาหาเราและยอมรับทุกสิ่งที่จากเราไป

ชีวิตมนุษย์นั้น พวกท่านต้องเวียนว่ายตายเกิดชาติแล้วชาติเล่า และต้องทุกข์กับความเศร้าโศกและโชคร้ายต่างๆ  ตอนนี้ พวกท่านควรระลึกอยู่เสมอให้มองเข้าไปข้างในเพื่อให้รู้จักตัวเอง อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิสูงสุดในจักรวาลอยู่เสมอให้นำพรแด่พวกท่าน  คนเกิดมาบางคนก็มีร่างกายสมบูรณ์ บางคนก็ไม่สมบูรณ์ บางคนจน บางคนไม่มีความสุขเพราะว่าพวกเขาไม่ได้รับพรจากเบื้องบน พวกเขายังไม่ได้พบพระอาจารย์ที่แท้จริง เพราะฉะนั้น พวกเขาก็ยังเป็นทุกข์อยู่

เพราะฉะนั้น ในร่างมนุษย์นี้พวกท่านจึงมีปัญหา มีเคราะห์กรรมมากมาย ไม่มีโอกาสพบพระอาจารย์ที่แท้จริง ที่นำพาพวกท่านเดินบนหนทางสู่ความรู้แจ้งได้ มีพระพุทธะหรือพระอาจารย์ที่แท้จริงอยู่บนโลกนี้เสมอเพื่อที่จะช่วยมวลมนุษย์ให้พ้นทุกข์

เพราะว่ามนุษย์มีบุญกุศลน้อยนิด พวกเขายังไม่เห็นธรรมชาติที่แท้จรงิของพระพุทธะ ดังนั้นพวกเขาจึงทุกข์มาก พวกเขาทำอะไรโดยไม่ใช้ปัญญา แล้วจึงสร้างกรรมชั่วต่างๆมากมายต่อร่างกายของพวกเขา ต่อชีวิตของพวกเขา แต่ไม่มีใครลงโทษพวกท่านหรอก พวกท่านลงโทษตัวเอง พวกท่านต่อว่าตำหนิตัวเอง

ดังนั้น ในวันนี้พระอาจารย์จึงมาที่นี่เพื่อเตือนพวกท่านว่า พวกท่านควรให้อภัยตัวเองและให้อภัยผู้อื่น ใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะว่าพวกท่านเป็นผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับพระอาจารย์ พระอาจารย์ได้พบกับพวกท่านเมื่อหลายชาติก่อน เมื่อมาที่นี่บนโลกนี้ พวกท่านต้องรับกรรมนี้ รับผลจากเหตุที่ท่านก่อ พวกท่านเอาของคนอื่นไป พวกท่านก็ต้องใช้คืน เพราะฉะนั้น ในชาตินี้ พวกท่านต้องแบกรับความทุกข์เหล่านี้

ทั้งหมดนี้คือเหตุและผล ทั้งหมดนี้คือกรรม

เพราะว่าพวกท่านยังไม่ได้รับความรู้แจ้งจากภายใน ยังไม่ได้เปิดปัญญาและยังไม่พบหนทางแห่งความหลุดพ้น พวกท่านจึงทุกข์ และกระทำสิ่งไม่ดีต่อตัวเอง ดังนั้นในชาตินี้ พระอาจารย์จึงมาที่นี่เพื่อปลุกให้พวกท่านตื่นและแนะนำให้พวกท่านให้อภัยตัวเองและให้อภัยคนอื่น

ตอนนี้ ไม่ว่าพวกท่านจะจำพระอาจารย์ได้หรือไม่ก็ไม่เป็นไร พวกท่านควรจะจำตัวเองให้ได้และใช้เวลาเงียบๆเพื่อให้ตระหนักรู้ถึงธรรมชาติพระพุทธะภายในตัวเอง ชีวิตมนุษย์นั้นไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก มนุษย์นั้นไม่ว่าที่ไหนก็มีกรรม ที่ไหนก็มีเหตุและผลติดอยู่ มนุษย์ต้องรับผลร้ายที่เกิดจากกรรมที่กำนดชะตากรรมตัวเอง เพราะฉะนั้นมนุษย์จึงไม่สมบูรณ์แบบ ไม่มีใครอยากมีร่างกายที่พิการ ไม่มีใครอยากตาบอด และทุกคนก็อยากได้ยินเสียงจากสวรรค์และเสียงจากภาษามนุษย์ ทั้งหมดนั้นคือกรรม คือเหตุและผล

ดังนั้น พระอาจารย์จึงได้บอกกับเจ้าแห่งกฎแห่งกรรมว่า “ได้โปรดเถอะ ชาตินี้พวกเขาต้องชดใช้มากพอแล้ว จากนี้ไปช่วยหยุดเถอะ”  ชีวิตของพวกท่านต่อจากนี้จะดีขึ้น หรือถ้าพวกท่านกลับมาใหม่ชาติหน้า พวกท่านก็จะดีขึ้น พวกท่านจะไม่ต้องมีร่างกายที่มีเคราะห์และไม่สมบูรณ์เช่นนี้อีก

วัตถุประสงค์ที่พระอาจารย์มาที่นี่เพื่อแนะนำพวกท่านและพระอาจารย์ก็ยินดีสอนใครก็ตามที่ต้องการเรียนสมาธิ พวกท่านฝึกปฏิบัติธรรมเพื่อปลดปล่อยจิตวิญญาณภายใน ยุติวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดและกลับสู่โลกอันสูงส่งที่ไม่มีคำว่าทุกข์ให้ได้ยินอีก

ในโลกนี้มีแต่ความทุกข์มากมาย แต่บนสวรรค์ อย่าว่าแต่ความทุกข์เลย แค่คำว่าทุกข์ยังไม่มี เพราะฉะนั้นพระอาจารย์มาที่นี่เพื่อเตือนและปลุกให้พวกท่านตื่น ทุกอย่างเป็นเพราะกรรม ที่ทำให้พวกท่าน พวกท่านไม่มีสิ่งใดพอเพียงสำหรับตัวเองและไม่เคยมีชีวิตที่สมบูรณ์ เป็นเพราะคำพูด ดวงตาของท่านที่นำเคราะห์กรรมมาสู่ตัวเอง
เพราะว่าคำพูดและการแปลภาษาที่ผิด พวกท่านพูดสิ่งที่ไม่ดีออกไป โดยที่บางทีอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าท่านไม่เข้าใจคนอื่น จึงทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้ผู้คนต้องทุกข์

สวรรค์มอบดวงตาให้พวกท่านมองเห็นความสวยงามของโลกนี้แต่เป็นเพราะกรรมมาเยือนและอวิชชาของมนุษย์ทำให้พวกท่านมองไม่เห็นพระพุทธะและสัจธรรมของสวรรค์ พวกท่านแค่มองที่เคราะห์กรรมเหล่านี้ ดังนั้นชาตินี้พวกท่านต้องรับมันไป

พระอาจารย์มาที่นี่เพื่อให้พวกท่านถวายให้พระอาจารย์ ไม่ใช่ถวายสิ่งของเงินทอง แต่ให้ถวายความทุกข์และเคราะห์กรรมต่างๆของพวกท่านเอง พวกท่านจะยอมมอบให้พระอาจารย์ไหม? พระอาจารย์ไม่รับสิ่งของเงินทองใดๆเพราะว่าพระอาจารย์มีพอแล้ว พระอาจารย์เพียงแค่รับความทุกข์ เคราะห์กรรมต่างๆของพวกท่านเอามาเผาให้หมด ชาติหน้าพวกท่านจะมีชีวิตที่สุขสบาย มีร่างกายครบ 32หน้าตาสวยงาม ฉลาด และมีปัญญา เป็นคนที่ทำประโยชน์ต่อโลกใบนี้

แต่ว่าชาตินี้พวกท่านก็ทำความดี การที่ท่านสวมใส่ร่างกายมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ช่วยปลุกให้คนอื่นได้ตื่น คนที่มีร่างกายสมบูรณ์และร่ำรวยแต่ไม่มีมโนธรรม ถึงแม้ว่าพวกท่านจะมีร่างกายไม่สมบูรณ์แต่พวกท่านก็มีจิตใจที่ดี มีความเมตตากรุณาและรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีที่ช่วยปลุกจิตสำนึกของคนรวยที่มีร่างกายครบถ้วนสวยงามแต่ไม่รู้จักทำความดี เพราะฉะนั้น ความล้มเหลวไม่ได้หมายความว่าท่านแพ้ แต่มีความสำเร็จอยู่ในความล้มเหลว ในความทุกข์ก็มีความสำเร็จ ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ของพวกท่านก็ยังเป็นบทเรียนที่ดีของพวกท่านเองและสำหรับสรรพสัตว์ทั้งหลายบนโลกมนุษย์

มีเรื่องหนึ่งในสมัยพระพุทธกาล วันหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงเดินบนถนน พระองค์เห็นชายพิการยากจนคนหนึ่ง ชายคนนี้ตาบอดและหูหนวก ถึงแม้จะพิการแต่เขาก็ไปได้ทุกแห่งหน เขาสามารถเดินทางไปพบพระพุทธเจ้าได้ ทุกวันเขาก็หาของไปถวายพระพุทธเจ้า ทุกคนต่างก็แปลกใจและสาวกของพระพุทธเจ้าหลายคนกล่าวว่า ข้าแต่พระพุทธเจ้า ชายคนนี้ยากจนสกปรกมอมแมม พระองค์ไม่ควรรับของถวายจากเขานะขอรับ

ทุกคนในราชสำนักต่างดูถูกเขา ถือว่าเขาเป็นขอทานข้างถนน และกีดกันไม่ให้เขาเข้าใกล้พระพุทธเจ้าแต่เขาก็ยังหาทางและหาวิธีจนได้ ไม่ว่าพระพุทธเจ้าไปที่ไหน เขาก็ยังดั้นด้นหาวิธีไปพบพระองค์จนได้

วันหนึ่งพระพุทธเจ้ารู้ว่าพวกคนในราชสำนักดูถูกเขาแล้วจะทำให้เกิดกรรมไม่ดีต่อพวกเขาเอง พระองค์จึงตรัสกับคนในราชสำนักว่า “ชายคนนี้ไม่ได้พิการ ชายคนนี้ไม่ได้ทำกรรมไม่ดีใดๆไว้  นี่คือพระอรหันต์ ที่ทำตัวเป็นคนจนและทุกข์ยากลำบากเพื่อปลุกจิตสำนึกให้กับคนรวย...”

เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเห็นว่าตัวเองพิการ พวกท่านไม่ควรเศร้าใจ ไม่ควรโทษตัวเองและคนอื่น พวกท่านควรให้อภัยตัวเองและให้อภัยผู้อื่น พยายามทำชีวิตให้ดีงาม สังเกตดูภายในตัวเอง และอธิษฐานต่อพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ให้อวยพรแด่พวกท่าน

ถ้าพวกท่านทำอย่างนั้นแล้ว ชีวิตพวกท่านจะดีขึ้น ถ้าชาติหน้าพวกท่านกลับมาอีก พวกท่านจะไม่ต้องมีชีวิตในสภาพที่ทุกข์ยากเช่นนี้อีก ถ้าพวกท่านไม่อยากกลับมาเกิดใหม่ พวกท่านอยากยุติความทุกข์ อยากมีชีวิตที่หลุดพ้นเป็นอิสระ พระอาจารย์ก็ยินดีนำทางให้พวกท่านออกจากโลกนี้ได้

ตอนนี้ ไม่ว่าพวกท่านจะมีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ พวกท่านก็ยังมีความทุกข์ ตามเหตุและผล ตามกรรม มีวิธีเดียวคือพวกท่านฝึกปฏิบัติธรรมเพื่อกลับไปสู่โลกแห่งสันติสุขและการหลุดพ้น ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความยากจนอีกต่อไป พวกท่านจะได้มีสันติสุขและเป็นอิสระอยู่บนสวรรค์

พระอาจารย์แนะนำพวกท่านว่าในชาตินี้จงอดทนเข้าไว้ ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความหมาย ชาติหน้าถ้ากลับมาใหม่ พวกท่านจะเป็นคนที่ดีพร้อมกว่านี้ ถ้าชาติหน้าพวกท่านเป็นคนดี มีร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ร่ำรวย พวกท่านอย่าลืมทำความดีให้มากขึ้นถ้าเป็นไปได้ พวกท่านก็เลือกเดินบนหนทางแห่งจิตวิญญาณเพื่อให้ได้มีชีวิตที่หลุดพ้นจากความทุกข์ ถ้าพวกท่านปฏิบัติธรรมในชาตินี้ พวกท่านจะหลุดพ้นได้ในชาติเดียว ถ้าพวกท่านไม่ได้ปฏิบัติธรรมเนื่องจากมีกรรมเยอะ แล้วชาตินี้พวกท่านจะยุติเหตุและผล กรรมต่างๆ ชาติหน้าพวกท่านจะจำได้ว่า พวกท่านได้พบพระอาจารย์ทางจิตวิญญาณที่แท้จริงและได้ฟังธรรมจากเขา บุญกุศลครั้งนี้เพียงพอที่จะให้พวกท่านใช้ต่อไปได้หลายชาติ

จำไว้นะว่าถ้ากลับมาใหม่ชาติหน้า พวกท่านต้องทำความดีจากใจตัวเอง วันนี้พระอาจารย์จะจบแค่นี้ พระอาจารย์ขออวยพรให้พวกท่านได้รับสิ่งที่ดีที่สุด พระอาจารย์อธิษฐานให้พวกท่านมีสันติ สันติ สันติ โอม

ถาม:       ได้ทราบว่าพระอาจารย์เป็นพระพุทธะในยุคปัจจุบัน ถ้าผมได้ติดตามพระอาจารย์จะช่วยให้พวกเราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้จริงหรือไม่? และจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะหลุดพ้นได้จริง?

ตอบ:พวกท่านไม่จำเป็นต้องติดตามพระอาจารย์ พวกท่านก็ยังหลุดพ้นในชาตินี้ได้ พวกท่านอยากขายความยากจน ความไม่รู้ ความทุกข์ของตัวเองให้พระอาจารย์ไหม?          พระอาจารย์จะรับซื้อและมอบบุญ ดินแดนแห่งนิพพานให้เป็นการแลกเปลี่ยน

ถาม:       พระอาจารย์บอกว่าพระอาจารย์จะนำเอาความทุกข์ของพวกเราไปเผา พระอาจารย์ทำได้อย่างไรคะ?

ตอบ:โอ นี่มันเป็นความลับของพระอาจารย์ นี่คืองานของพระอาจารย์ หน้าที่ของหมอคือรักษาโรค ใช่ไหม? หน้าที่ของวิศวกรคือสร้างบ้าน หน้าที่ของชาวนาคือปลูกข้าวและเก็บเกี่ยว หน้าที่ของพระอาจารย์คือช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์จากโลกนี้และให้กลับสู่แดนสวรรค์ หน้าที่ของพระอาจารย์คือขจัดกรรมและความทุกข์ของมนุษย์ที่มาจากหลายต่อหลายชาติ ถ้าพวกท่านอนุญาต พระอาจารย์จะเผามันให้หมด พวกท่านจะกลายเป็นคนที่สว่างไสว เป็นคนที่รู้แจ้งและรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ภายในตัวเอง
หน้าที่ของพระอาจารย์คือต่อรองกับกฎแห่งกรรม เมื่อพวกท่านพบพระอาจารย์และยอมให้พระอาจารย์เผากรรมของพวกท่านให้แล้ว พวกท่านจะไม่ทุกข์อีกในชีวิตนี้ พระอาจารย์ช่วยพวกท่านให้กลายเป็นพระอรหันต์ เผากรรมทั้งหมดของพวกท่าน ถ้าพวกท่านอยากกลับมาเกิดใหม่ พวกท่านจะแข็งแรง ร่างกายครบถ้วน เป็นคนดี ร่ำรวย มีเมตตากรุณาหรือไม่ก็กลับมาที่นี่เพื่อเป็นพระอรหันต์มาช่วยเหลือมนุษย์

นี่คืองานของพระอาจารย์ พระอาจารย์มีพลังนี้ เพราะฉะนั้น พระอาจารย์จึงพูดได้อย่างมั่นใจ ถ้าพวกท่านยอมมอบความยากจน ความทุกข์ อวิชชาและความไม่เป็นสุขให้พระอาจารย์ พระอาจารย์ก็พร้อมจะรับไว้ ถ้าชาตินี้พวกท่านอยากกลับไปยังโลกแห่งสันติและนิพพาน พระอาจารย์จะชี้แนะให้ ถ้าพวกท่านตกลง พระอาจารย์จะเปิดหนทางให้พวกท่านกลับสู่แดนนิพพาน เมื่อวาระสุดท้ายของพวกท่านมาถึง ร้อยปีผ่านไป พระอาจารย์จะมาแจ้งพวกท่านล่วงหน้าแล้วจะนำทางพวกท่านกลับบ้าน ไม่มีกรรม มาร หรือความตายกล้าเข้ามากล้ำกรายพวกท่าน มีแต่เทพเทวดาและพระพุทธะจากสิบทิศมาต้อนรับพวกท่าน
ถาม:เรานั่งปฏิบัติสมาธิอย่างไรเราจึงจะได้หลุดพ้น?

ตอบ:พวกท่านต้องให้พระอาจารย์ประทับจิตให้ก่อน ขณะที่ประทับจิต พระอาจารย์ใช้พลังล้างกรรมของพวกท่านและสอนว่าทำอย่างไรจึงจะสงบนิ่ง ตั้งจิตรวมศูนย์และทำสมาธิ ช่วยให้พวกท่านเห็นแสงสว่างจากสวรรค์และได้ยินเสียงจากจักรวาลและได้ยินคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พวกท่านไม่ต้องใช้ตาและหูของร่างกายนี้
ถาม:กราบนมัสการพระอาจารย์ ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยท้อกับชีวิต พระอาจารย์จะช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์ได้อย่างไร?

ตอบ:ถ้าเหนื่อย พระอาจารย์จะสอนวิธีทำสมาธิที่จะเปลี่ยนชะตากรรมให้ ทำให้มีชีวิตใหม่ และกลับสู่โลกแห่งนิพพาน เพราะว่าท่านเหนื่อย จึงไม่สามารถหาหนทางกลับสู่โลกแห่งสันติและหลุดพ้นได้ เพราะฉะนั้นพระอาจารย์จึงมาที่นี่เพื่อสอนให้ ถ้าใครต้องการ พระอาจารย์ก็ยินดีช่วย ถ้าเหนื่อยแล้ว พระอาจารย์จะสอนวิธีช่วยให้พวกท่านได้รู้จักตัวเอง นั่นคือวิธีทำสมาธิ เชื่อมต่อตัวท่านกับพระพุทธเจ้า-พระโพธิสัตว์ พาพวกท่านกลับสู่โลกแห่งสันติและหลุดพ้น โลกนี้ไม่มีอะไรสวยงามหรอก โลกบนสวรรค์ต่างหากที่สวยงามที่สุด

พระอาจารย์มาที่นี่พร้อมกับของขวัญเล็กๆน้อยๆจากน้ำใจของพระอาจารย์และลูกศิษย์ มามอบให้พวกท่านเพื่อเป็นการปลอบใจนิดหน่อย พระอาจารย์รู้ว่าไม่มีอะไรที่สามารถมาชดเชยความสูญเสียและความทุกข์ในชีวิตนี้ได้ นี่คือของขวัญเล็กๆน้อยๆจากความรักของพระอาจารย์ที่มอบให้พวกท่าน ของขวัญที่ใหญ่ที่สุดคือการมาเยือนของพระอาจารย์ที่นี่ และขจัดเหตุและผลของพวกท่าน ล้างกรรมให้พวกท่าน ชาติหน้าถ้ากลับมาใหม่ พวกท่านจะเป็นคนที่ครบถ้วน สวยงามและอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยและมีความสุข พวกท่านจะมีความรักความเมตตาช่วยผู้คนที่เดือดร้อน

วันนี้พระอาจารย์และลูกศิษย์มีของขวัญเล็กๆน้อยๆมามอบให้กับสมาคมเพื่อหวังว่าเป็นการปลอบขวัญชดเชยความสูญเสียของพวกท่าน และเชิญให้พวกท่านได้ทานมังสวิรัติ อธิษฐานให้ที่นี่ได้รับบุญกุศลและมีสันติสุข พระอาจารย์ขออธิษฐานให้ที่นี่และชีวิตของพวกท่านสงบสุข สันติ สันติ สันติ โอม