เทศนา

 

    เหตุผลที่อาตมามาที่ค่ายผู้อพยพในวันนี้เพื่อมอบความรักให้แก่ผู้อพยพชาวพม่าที่อยู่ที่นี่อาตมาก็เคยเป็นผู้อพยพมาก่อนพวกท่านอีก ตั้งแต่อาตมายังเด็กอาตมารู้ว่าพวกท่านรู้สึกอย่างไรอาตมาออกจากค่ายอพยพ ไปประเทศอเมริกาตั้งแต่เด็กพออาตมาได้ยินว่าในประเทศไทยยังมีผู้อพยพชาวพม่าอยู่อีก อาตมาหัวใจแทบสลายอาตมาจึงพยายามมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ด้วยสิ่งของเล็กๆน้อยๆแต่ว่าสิ่งของเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือจิตวิญญาณ การทำสมาธิ การเชื่อมต่อกับพระพุทธเจ้าหรือพระผู้เป็นเจ้า
      อาตมาโชคดีที่ได้ออกจากค่ายผู้อพยพก่อนพวกท่านนั่นเป็นเรื่องของกรรมถ้ากรรมเราหมด เราก็สามารถมีชีวิตอยู่ในสถานที่อันสวยงาม พวกท่านต้องรอก่อน อย่าเพิ่งหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตจงบอกลูกหลานของพวกท่าน บอกทุกคนให้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข และจดจำพระพุทธเจ้าไว้
      ตอนที่อาตมายังเล็กในค่ายผู้อพยพ อาตมาก็เคยคิดเหมือนกันว่าชีวิตเราคงจบสิ้นเท่านี้ ในค่ายผู้อพยพ พวกเราออกไปข้างนอกไม่ได้ ประเทศเราไม่มีอิสระ ถ้ากลับประเทศพวกเราก็จะตาย แต่นั่นไม่จริง ถ้ากรรมหมด แล้วชีวิตที่งดงามก็จะมา
      เมื่อหลายปีก่อนมีผู้อพยพชาวเวียดนามอยู่ทั่วทั้งเอเชียพวกเขาหมดหวัง พวกเขาคิดว่าชีวิตคงจบสิ้นแล้ว พวกเขาจะไม่ได้กลับบ้านอีก ประเทศชาติจะไม่ให้พวกเขาเป็นอิสระ แต่นั่นก็ไม่จริง พอกรรมหมด ประเทศเราก็มีอิสรภาพ พวกเรากลับบ้านเกิดเมืองนอนของเราได้ ไปสู่ถิ่นกำเนิดอันสวยงาม
      ตัวอาตมาเองได้ไปอเมริกาตั้งแต่ยังเล็ก อาตมาก็คิดเหมือนกัน บางทีประเทศของเราอาจจะไม่มีอิสรภาพอีก แต่ตอนนี้ประเทศก็มีอิสรภาพแล้ว อาตมากลับบ้านได้ อาตมาจะกลับไปอเมริกาก็ได้ ตัวอาตมาเองก็มีสัญชาติอเมริกัน


      พวกเราต้องรักและอธิษฐานทุกวันเพื่อขอพรจากพระพุทธเจ้า พวกเราต้องให้อภัยใครก็ตามที่ทำให้เราต้องเป็นผู้อพยพ
      ตัวอาตมาเอง เมื่อก่อน อาตมาจะเล่าเรื่องจริงของตัวเองให้ฟัง ตัวอาตมาเองยังเป็นมนุษย์ ก็ย่อมมีความโกรธ อาตมาโกรธคนที่ทำให้อาตมาหรือเพื่อนร่วมชาติของอาตมาต้องหนีออกจากประเทศ ต้องกลายเป็นผู้อพยพ เพราะว่าตอนนั้นอาตมายังไม่รู้แจ้ง
      พออาตมาโตขึ้น ได้เรียนหนังสือ ทำงาน มีเงิน อาตมาก็ส่งเงินไปให้ผู้อพยพ วันหนึ่ง อาตมาคิดว่าแม้แต่เงินล้านๆเหรียญก็ไม่เพียงพอสำหรับผู้อพยพทั่วทั้งโลกนี้ ทำให้อาตมาคิดถึงสิ่งที่สูงขึ้นนั่นคือเราต้องรู้แจ้ง หลังจากเรารู้แจ้งแล้วเราก็จะสามารถช่วยทุกคนได้ พวกเราจะไม่ต้องกลับมาเกิดที่นี่เพื่อมาทุกข์ มาโกรธแค้น มาเป็นผู้อพยพอีก
      แล้วอาตมาก็บอกว่าอาตมาต้องรักใครก็ตามที่ทำให้อาตมาต้องเป็นผู้อพยพ ใครก็ตามที่ทำให้ครอบครัวของเราเป็นผู้อพยพ ใครก็ตามที่ทำให้เพื่อนร่วมชาติของเราเป็นผู้อพยพ ต้องทุกข์ยาก หิวโหย เด็กๆไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่มีอนาคต พวกเราต้องให้อภัยพวกเขา แล้ววันหนึ่งประเทศของเราจะมีอิสรภาพ พวกเราจะได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว มีเพื่อนฝูงรายล้อม
      สำหรับตัวอาตมาเองตอนนั้นมีความเกลียดชัง โกรธเคืองคนที่ทำให้พวกเราเป็นผู้อพยพ อาตมาบอกกับตัวเองว่า “นี่มันไม่ดีนะ” ตอนที่เราโกรธ เราเองก็ไม่ดี ไม่สบาย เหนื่อย อาตมาจึงบอกว่าบางทีเราอาจจะต้องหาความรัก ความรักชนิดที่สามารถลบล้างความโกรธทั้งหมด ความรักชนิดที่สามารถลบล้างกรรมทั้งหมดได้
      อาตมาคิดว่าพระพุทธเจ้าเผยแผ่ความรักให้กับสรรพสัตว์ในประเทศอินเดียในขณะนั้น พระองค์พบความรัก บางทีเราอาจพบได้เช่นกัน ดังนั้น อาตมาจึงไปเสาะหาครูบาอาจารย์เพื่อเรียนทำสมาธิ หลังจากนั้นอาตมาก็พบความรักภายในตนเอง หลังจากที่พบความรักแล้ว พวกท่านจะลืม จะให้อภัยพวกเขา แล้วทุกอย่างก็กระจ่าง   เมื่อพวกท่านรักพวกเขา พวกท่านจะรู้สึกดีมาก
      อาตมาเองอธิษฐานต่อพระพุทธเจ้า ได้โปรดประทานพรให้กับประเทศของข้าพเจ้า ให้ประเทศของข้าพเจ้ามีอิสระ ให้ประชาชนสามารถกลับบ้านไปพบครอบครัวได้ ได้ไปเห็นบ้านเกิด เห็นถิ่นกำเนิดของตนเอง ถึงแม้ว่าพวกท่านจะออกจากประเทศไป พวกท่านมีอิสระ มีชีวิตร่ำรวยแต่ก็ไม่เหมือนอยู่บ้าน กินอาหารของตัวเอง อาศัยอยู่บนผืนดินของตัวเอง

      เมื่อพวกท่านให้อภัยพวกเขาแล้วกรรมจะถูกลบล้างไป แล้วพวกเราจะมีประเทศพม่าที่สวยงามกลับคืนมา

      แล้ววันหนึ่งพวกเราจะเห็นแสงอาทิตย์และความมืดมนก็จะหมดไป พวกเราจะได้เดินกลับบ้านบนหนทางที่สวยงาม และมีประเทศที่สวยงาม ไม่มีใครทุกข์ตลอดไปหรอก ประเทศของพวกท่านสวยงามและเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ หลังฝนตก ทุกอย่างก็จะสดใส มีแสงอาทิตย์สวยงาม มีสายรุ้ง แต่ตอนนี้ประเทศของพวกท่านกำลังอยู่ในพายุฝน
      อดทนไว้นะ อดทนไว้ วันหนึ่งพวกท่านจะเห็นเอง พวกท่านจะได้เดินกลับบ้านอันงดงามและเปี่ยมสุข แล้วพระพุทธเจ้าหรือพระผู้มีพระภาคเจ้าจะให้ทุกอย่างที่ท่านสูญเสียไปจากชีวิต
      นี่เป็นเรื่องจริง อาตมามีประสบการณ์แล้วเมื่อยี่สิบสามสิบกว่าปีก่อน อาตมาอาศัยอยู่ในประเทศเวียดนามที่ยากจนมาก พวกท่านก็รู้ และยังอยู่ในครอบครัวที่ยากจนมากๆด้วย ครอบครัวอาตมาหนีออกจากประเทศ อาตมาต้องเป็นผู้อพยพตั้งแต่อายุ 12ครอบครัวอาตมาก็หมดหวัง พวกเขาคิดว่าชีวิตคงจบสิ้นแล้ว แต่มีคนหนึ่งในครอบครัวบอกว่า “ไม่หรอก อธิษฐานต่อไปเถอะ วันหนึ่งพวกเราจะมีชีวิตที่สวยงาม” อาตมาก็ยังอธิษฐานต่อพระพุทธเจ้าต่อไป หลังจากนั้นอีกสองสามเดือนต่อมาอาตมาก็ได้ไปอเมริกา อาตมามีครอบครัวที่อบอุ่นในอเมริกา ครอบครัวชาวอเมริกันอุปการะอาตมา อาตมามีโอกาสได้ไปโรงเรียน มีทุกสิ่งทุกอย่าง
      อาตมาก็บอกว่าคำอธิษฐานของเราเป็นจริงแล้ว คำขอของเราสมหวังแล้ว พระพุทธเจ้าถูกต้องแล้ว และอาตมายังคงอธิษฐานเพื่อประเทศชาติต่อไป “ขอให้พระองค์โปรดประทานพรให้ประเทศข้าพเจ้าด้วย ทำให้ประเทศข้าพเจ้ามีอิสระ ประชาชนได้กลับบ้าน”
      แล้วพระพุทธเจ้าก็ตอบว่า “ได้”
      แล้วอาตมาก็ตกลงกับพระองค์ หลังจากนั้นอาตมาก็เห็นประเทศมีอิสรภาพ เสรีภาพ ใครๆก็เข้ามาติดต่อค้าขายทำธุรกิจได้ ตอนนี้ประเทศมีอิสระแล้ว ผู้อพยพก็กลับบ้านได้
      หลังจากเห็นเช่นนี้ อาตมาก็กล่าวว่า “นี่เป็นปาฏิหาริย์จริงๆ พระพุทธองค์เยี่ยมมาก เอาละบางทีข้าพเจ้าจะทำบางอย่างให้พระองค์เพื่อตอบแทนที่พระองค์ช่วยพวกพ้องของข้าพเจ้า”
      อาตมาบอกว่าบางทีอาตมาจะตามพระองค์ไปเผยแผ่คำสอนของพระองค์ เผยแผ่พระธรรม คำเทศนาของพระองค์ให้มวลมนุษย์ให้รับรู้ และทำความดี คิดดีและมีความรักต่อกัน หลังจากนั้นอาตมาก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง อาตมาจึงทำงานต่อไปทั่วโลก
      พ่อแม่ของอาตมาไม่ต้องการเช่นนั้น พวกเขาคิดว่าอาตมาบ้า เขาบอกว่า “ทำไมมีชีวิตดีๆ มีทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วยังอยากมีชีวิตธรรมดา ทำไมทำอย่างนั้น สมองผิดปกติหรือเปล่า”
อาตมาบอกแม่ว่า “แม่ไม่เข้าใจความรักภายใน ความสุขภายในที่ไม่สามารถบรรยายเป็นภาษามนุษย์ได้” ตอนนี้อาตมามีชีวิตที่ร่ำรวย สวยงาม จากคนจนเป็นคนรวย แต่ชาติหน้าอาตมาไม่อยากเกิดใหม่มาเป็นผู้อพยพอีก ใครจะรู้ พวกเราไม่รู้ วันนี้เราสวยงาม แต่หากเราทำสิ่งไม่ดี พราไม่รู้ว่าอะไรคือสัจธรรม พวกเราไม่รู้เรื่องจิตวิญญาณ พวกเราไม่รู้จักการรู้แจ้ง พวกเราไม่สร้างบุญ แล้วพอสักร้อยปีเราตายไป เราก็มาเกิดเป็นผู้อพยพ มาเป็นทุกข์อีก เป็นเหมือนวัฏจักร อาตมาบอกว่า “ไม่ละ เราไม่ต้องการเช่นนั้น เราต้องออกจากวัฏจักรนี้ เราไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีก ตอนนี้เรามีชีวิตที่ดี มีทรัพย์สินเงินทอง แต่พอตายไปเราก็ไม่มีอะไรเลย” นั่นทำให้อาตมาต้องไปเสาะหาสัจธรรม ความรู้แจ้ง และเห็นทั่วทั้งจักรวาล

      นั่นคือสารที่อาตมามาที่นี่ในครั้งนี้ เพื่อมาพูดคุยและให้ความหวังและอนาคตที่สวยงามสำหรับพวกท่าน ครอบครัวชาวพม่า ไม่มีใครต้องทนทุกข์ตลอดไปหรอก ไม่มีใครหมดอิสรภาพตลอดไป พวกเราเป็นบุตรของพระเจ้า วันหนึ่งพวกเราจะมีอิสระ วันหนึ่งพวกเราจะมีชีวิตที่สวยงาม ถ้าพวกเรารู้ว่าพระพุทธเจ้าอยู่กับเรา
      ให้อภัยใครก็ตามผู้ที่ทำให้เราเป็นผู้อพยพ และให้ความรักแก่เขา ยิ่งพวกเรารักมากเท่าไร กรรมก็จะลดน้อยลง
      คนที่ทำให้เราทุกข์ต้องเป็นผู้อพยพ พวกเขาไม่มีอายุยืนเป็นพันๆปีหรอก พอกรรมหมดแล้วประเทศชาติก็จะสวยงามเอง อดทนไว้นะ อดทนไว้ ให้ความรัก และระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือผู้ที่พวกท่านเชื่อถือมากที่สุดไว้
      อาตมาดีใจมากที่เห็นประเทศของพวกท่านมีพุทธศาสนาที่เข้มแข็ง พวกท่านเป็นเพื่อนของอาตมา เป็นพี่น้องของอาตมา เป็นพ่อแม่ของอาตมาเมื่อหลายชาติก่อน ชาวพม่าอาจไม่รู้แต่อาตมารู้ อาตมาเวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้ไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ นับไม่ถ้วน อาตมาเกิดในหลายๆประเทศ มีทั้งทุกข์ยากและเป็นคนรวย
      อาตมามาที่นี่เพื่อมอบจิตวิญญาณสักเล็กน้อยและแบ่งปันและเตือนพวกท่าน และให้สิ่งของแก่พวกท่าน นี่ไม่ใช่อาตมาให้พวกท่านแต่เป็นการตอบแทนสำหรับสิ่งที่อาตมาติดค้างพวกท่านจากชาติก่อน
      วัตถุสิ่งของเป็นแค่สิ่งชั่วคราวเท่านั้น พวกเราต้องรู้เรื่องจิตวิญญาณ พวกเราต้องรู้แจ้งและหลุดพ้นในชั่วชีวิตเดียว และพวกเราไม่ต้องทนทุกข์ ไม่ต้องเกิดใหม่อีก พวกเราเป็นเทวดา เป็นนักบุญ
      อาตมารู้หนทางดับทุกข์
      อาตมารู้หนทางตัดการเวียนว่ายตายเกิด หนทางไปสู่สวรรค์ นิพพาน ดินแดนแห่งพระพุทธะ
      อาตมารู้วิธีชำระล้างกรรม
      อาตมารู้วิธีขจัดความมืดมนและกรรมออกไป
      อาตมารู้ว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน ใครก็ตามที่ต้องการกลับบ้านพร้อมกับพระพุทธเจ้า อาตมาจะมอบกุญแจให้ พวกท่านจะกลับบ้านเองก็ได้ หรืออาตมาจะให้ตั๋วเดินทางฟรี
      พวกท่านจะมีชีวิตนิรันดร์ ไม่มีทุกข์ นั่นเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องจริง
      พวกท่านฟังอาตมาพูดเหมือนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม แต่มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด
      ถึงแม้ว่าท่านจะร่ำรวย ยากจน ทุกข์หรือสุข อะไรก็ตามในโลกนี้ หลังจากนั้นพวกท่านก็ยังต้องมาเกิดใหม่อีก ถ้าพวกท่านไม่รู้แจ้ง ถ้าพวกท่านไม่พบพระอาจารย์ที่แท้จริง
      เมื่อพวกท่านได้พบพระอาจารย์ที่แท้จริงแล้ว กรรมจะถูกชำระล้างไปจากชีวิตพวกท่าน เหมือนต้นไม้แห้งเป็นสีแดงเหลือง แต่พอฝนตก ต้นไม้ก็กลับเขียวชอุ่ม
      เอาละ ขอบคุณที่พวกท่านอดทนฟัง อาตมาขออธิษฐานให้ผู้อพยพทั้งหมด ณ เวลานี้และตลอดไปให้มีชีวิตที่มีความสุข มีความรักเมตตาและไม่มีความทุกข์ในชีวิตนี้
      ถ้าพวกท่านเชื่ออาตมา พวกท่านจงอธิษฐานต่อพระพุทธเจ้า หรือเรียกชื่ออาตมาก็ได้ อาตมาอยู่ที่นี่ พระพุทธเจ้าอยู่บนโน้น ไกลเกินไป
      เหมือนถ้าพวกท่านมีปัญหา ต้องเรียกตำรวจท้องถิ่นใช่ไหม ถ้าเรียกหานายกฯหรือรัฐมนตรี เขาก็อยู่กรุงเทพ ไกลไป เขาไม่ได้ยินหรอก ถ้าพวกท่านต้องการอะไร พวกท่านต้องเรียกหาคนที่ดูแลค่ายอพยพที่นี่ใช่ไหม ก็เหมือนกัน อาตมาอยู่ที่นี่ ติดต่อง่าย แต่พระพุทธเจ้าอยู่บนโน้น สูงเกินไป
      ถ้าพวกท่านอยากติดต่อพูดคุยกับพระพุทธเจ้า อาตมามีวิธีให้พวกท่านคุยกับพระองค์ได้ อาตมามีหนทางติดต่อให้พวกท่านให้คุยและเรียกให้พระพุทธเจ้ามาหา
      ไม่ยุติธรรมเท่าไร เมื่อ 2500ปีจากอินเดีย หลังจากที่พระองค์นิพพาน พระองค์ก็อยู่บนสวรรค์ไม่มาที่นี่ พวกเราต้องทุกข์ยาก ไม่ยุติธรรมเลย
      ทำไมเมื่อพระพุทธเจ้าอยู่ที่อินเดียตอนนั้น ทุกคนต่างมีความสุข แต่พวกเราต้องทุกข์ ไม่ยุติธรรม พระพุทธเจ้าอยู่ที่นี่ ข้างๆเรานี่ พวกเราเรียกหาพระองค์ เพียงแต่ขาดการเชื่อมต่อกับพระองค์เท่านั้น
      เหมือนกับที่หากพวกท่านต้องการโทรหาบางคน พวกท่านทำอย่างไร? พวกท่านไม่มีโทรศัพท์ ถ้าพวกท่านต้องการติดตั้งโทรศัพท์ พวกท่านต้องเรียกองค์การโทรศัพท์มาติดตั้งให้ที่บ้านแล้วจึงสามารถโทรหาใครก็ได้
      ตอนนี้ในบ้านมีไฟฟ้า แต่ตอนพวกเราสร้างบ้าน พวกเราไม่มีไฟฟ้า แล้วการไฟฟ้าก็มาต่อไฟให้ แล้วพอพวกเราเปิดไฟ บ้านก็สว่างขึ้น
      เหมือนกัน พวกเราไม่เห็นสวรรค์ เพราะพวกเราถูกปิดกั้น พวกเราไม่ได้ยินพระพุทธเจ้าเพราะว่าพวกเราถูกตัดการเชื่อมต่อ นี่คืองานของอาตมา
      ใครก็ตามที่ต้องการเห็นพระพุทธเจ้าหรือสวรรค์ ใครก็ตามที่ต้องการตัดกรรมเพื่อกลับสู่สวรรค์ หรือกลับบ้านเดิม ไปมีชีวิตสวยงามบนสวรรค์ มาสิแล้วอาตมาจะปลดปล่อยพวกท่านให้
      ถ้าพวกท่านไม่ต้องการเกิดใหม่เป็นผู้อพยพอีกและต้องมาทุกข์ยากลำบากอีก และต้องการเปลี่ยนอนาคตตอนนี้และกลับบ้าน มาหาอาตมาแล้วอาตมาจะปลดปล่อยให้พวกท่านเป็นอิสระ
      อาตมาพูดเรื่องจริง อาตมารู้ว่าความจริงนั้นฟังได้ยากแต่อาตมาก็ต้องพูด
      ใครก็ตามที่ไม่อยากหลุดพ้นก็เชิญอยู่บนโลกนี้เพื่อรับความทุกข์ บางครั้งพวกเขาคิดว่าตอนนี้พวกเขาร่ำรวย ร่างกายแข็งแรง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร หลังจากพวกเขาตาย พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน บางทีพวกเขาอาจกลายเป็นผู้อพยพอีก
      อาตมาขอเตือนพวกท่านให้มีความรักใคร่เมตตาและให้อภัยใครก็ตามที่นำความทุกข์มาให้เราในการทำให้เราเป็นผู้อพย อย่าเพิ่งหมดหวังกับชีวิต จงใช้ชีวิตอย่างสวยงามต่อไป
      ฟังคำอาตมาและจดจำไว้ในหัวใจของพวกท่าน ประเทศของพวกท่านจะเป็นอิสระในเร็วๆนี้ ประเทศของพวกท่านจะร่ำรวยประเทศของพวกท่านในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่าพันล้านคน ประเทศของพวกท่านจะสวยสดงดงามเหมือนฟ้าหลังฝน พวกท่านจะเห็นแสงอาทิตย์หลังฝนตก พวกท่านจะได้รับทุกอย่างที่สูญเสียไปในชีวิตในรุ่นนี้ อะไรก็ตามที่ลูกหลานหรือพ่อแม่ต้องรับเคราะห์ แล้วพระพุทธเจ้าจะชดใช้ให้ทุกอย่างสำหรับชาวพม่า
      ขอบคุณมากอีกครั้งหนึ่ง อาตมาหวังให้พวกท่านประสบแต่สิ่งที่ดีที่สุด และพบความรักความเมตตาภายในตัวเอง

      ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพวกท่านนะ เอาละขอบคุณมาก พวกเราเป็นลูกหลานของสวรรค์ พวกท่านไม่รู้ว่าพวกท่านเคยเป็นพี่น้องของอาตมาเมื่อหลายๆชาติก่อน แต่พอเรามาเกิดใหม่เราก็ลืมหมดแล้ว ไม่เป็นไร พวกเรารักกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อาตมาช่วยพวกท่านทุกคนที่นี่ก็หมายความว่าอาตมาช่วยตัวอาตมาเอง พวกท่านให้โอกาสอาตมาทำเช่นนี้  ขอบคุณพวกท่านมากที่ให้โอกาสนี้

      เพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อาตมามาที่นี่ อาตมาไม่รู้ว่าผู้อพยพและคนยากจนที่นี่ต้องการอะไร ตอนนี้อาตมารู้แล้วว่าพวกท่านต้องการอะไร ครั้งหน้าอาตมาจะเอามาด้วย แต่ครั้งนี้อาตมาต้องขอโทษด้วยที่อาตมามีแค่ข้าวสารเพียงเล็กน้อย อาตมามีของอีกที่สำนักงาน บางทีพวกเขาอาจจะแบ่งกันได้ รวมทั้งความรักของอาตมาด้วย
      พยายามอยู่ด้วยความหวัง พวกเราไม่ยากจนตลอดไปหรอก
      อาตมาจะพยายามมาอีก อาตมารู้แล้วว่าพวกท่านต้องการอะไร
      ครั้งหน้าพบกันใหม่ อยู่ที่นี่ อดทนไว้แล้วเด็กๆจะได้ไปโรงเรียน มีความสุขและระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือใครก็ตามที่พวกท่านเชื่อถือที่สุด
      อาตมาอธิษฐานทุกวันตั้งแต่เด็กขอให้ออกจากค่ายอพยพ ขอให้ประเทศมีอิสรภาพ แล้วคำอธิษฐานของอาตมาก็เป็นจริง อาตมารู้ว่าพระพุทธเจ้าดำรงอยู่ อาตมารู้ว่าพระพุทธเจ้าฟังอาตมาและทุกคนที่อธิษฐาน พระองค์จะทำให้เรา พวกเราต้องอดทนไว้จนกว่ากรรมจะหมดไป แล้วพวกเราจะได้กลับบ้านไปมีชีวิตที่สวยงาม
      อาตมาคิดว่าตอนนี้สายเกินไปสำหรับพระสงฆ์ของเราที่จะอยู่ที่นี่ อาตมาขอขอบคุณพวกท่านที่อดทนฟัง จงใช้ชีวิตต่อไป แล้ววันหนึ่งพวกท่านจะเห็นแสงสว่างที่ขจัดความมืดมนออกอไป ประเทศของพวกท่านสวยงามมาก อาตมาได้ยินมาหลายครั้งแล้ว
      แล้วพบกันใหม่ พวกเรายังมีโอกาสอยู่