เทศนา
     คณะเจ้าภาพ:กราบนมัสการพระอาจารย์รูมา วันนี้พวกเราภาคภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพระอาจารย์รูมาและคณะผู้ปฏิบัติธรรม พุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกหนแห่งที่มาที่นี่ พวกเราขอนิมนต์พระอาจารย์รูมาเริ่มพิธีการเลยครับ
     พระอาจารย์รูมา: ก่อนอื่น อาตมาขอให้ทุกคนหลับตาลงและตั้งจิตอธิษฐานที่พระอาจารย์สาลีได้กลับสู่สวรรค์ ให้นำความสุข สันติภาพสู่ประชาชนชาวลาว พระอาจารย์สาลีท่านได้บรรลุภารกิจของท่านที่เป็นพระสงฆ์ – พระอริยะเจ้าบนโลกนี้ พวกท่านทั้งหลายพร้อมกับอาตมาร่วมกันนำพาความรักความเมตตาของพระอริยะเจ้าและพระพุทธเจ้า อาตมาทำพิธีนี้เพื่อส่งพระอาจารย์สาลีกลับสู่สวรรค์ นี่เป็นพิธีกรรมของอินเดียโบราณ มันอาจจะดูแปลกแตกต่างไปนะ (พระอาจารย์รูมาเริ่มพิธีกรรม)
     พระอาจารย์สาลีและอาตมาเป็นเพื่อนรักกัน เขาทิ้งอาตมาไปนิพพานเร็วเกินไป อาตมาต่อว่าเขาแต่เขาบอกว่า “อาตมาทำงานเสร็จแล้ว อาตมาต้องกลับบ้านไปยังดินแดนพุทธะ” จริงๆแล้ววิญญาณไม่มีวันตาย พวกเราแค่เปลี่ยนชุดภายนอกเท่านั้น หลังจากที่เราเสร็จภาระหน้าที่ในชีวิตนี้แล้ว ไม่ว่าพระสงฆ์ แม่ชีหรือฆราวาสต่างก็กลับสู่สวรรค์ ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ความว่างเปล่า พระอาจารย์สาลีได้เสร็จภารกิจในฐานะพระสงฆ์ เจ้าอาวาส พระอริยะเจ้า วิปัสสนาจารย์ ท่านยังอุทิศชีวิตต่อประเทศลาว พุทธศาสนาและประชาชนชาวลาว หลังจบภารกิจนี้ท่านจะกลับไปยังโลกแห่งนิพพาน ท่านรู้จักหนทางกลับบ้าน ดังนั้นเมื่อดับขันธ์ ท่านก็รู้ว่าจะไปที่ไหน แต่พวกท่านทั้งหลายล่ะ? เมื่อคนเราถูกยึดติดกับความทุกข์ เมื่อถึงเวลาละสังขาร ผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนปฏิบัติธรรมจะไม่รู้หนทางกลับสู่ดินแดนแห่งสันติภาพและหลุดพ้นจากสังสารวัฎ
     ตอนนี้ถึงเวลาที่วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี พัฒนา ทุกคนใช้เวลาดูแลชีวิตของตัวเอง ชื่อเสียง ทรัพย์สมบัติ โดยไม่เผื่อเวลาสำหรับดวงวิญญาณของตัวเอง ไม่รู้วิธีหันเข้าไปดูภายในตัวเองและทำสมาธิเพื่อหาหนทางหลุดพ้นจากวัฏสงสารในชาติเดียวนี้ หรือไปวัดเพียงเพื่อชื่นชมความงามของพระพุทธเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พวกท่านก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน จะตายอย่างมีเกียรติหรือตายอย่างสงบไหม?
     ในชีวิตนี้ มีหลายคนที่ทุกข์ยากลำบาก มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ในอวิชชา ความมืดมน ไม่รู้หนทางสู่นิพพาน เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องเวียนว่ายตายเกิดและมามีชีวิตที่ทุกข์ยากอีก

 

     นี่คือเหตุผลที่พระพุทธเจ้าได้สละชีวิตของพระองค์ สละราชบัลลังค์ ลาภยศสูงส่งและทรัพย์สมบัติเพื่อหาหนทางหลุดพ้น เพื่อหาปัญญา ความยิ่งใหญ่ภายในและสร้างสวรรค์ขึ้นมา เมื่อมนุษย์เสร็จหน้าที่ในชีวิตของตนแล้วพวกเขาจะกลับสู่โลกอันสันติสุข

     วันนี้ อาตมาอยากจะแบ่งปันกับพวกท่านสักสองสามเรื่อง: พระอาจารย์สาลีกับอาตมาเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ร่วมศึกษาปฏิบัติธรรมมาด้วยกันตั้งหลายชาติมาแล้ว แต่พระอาจารย์สาลีจะกลับสู่นิพพานก่อนอาตมาเสมอ ปล่อยให้อาตมาอยู่คนเดียวบนโลกนี้ การดับขันธ์ของพระอาจารย์สาลีคือพรสำหรับประเทศลาว ท่านอาจารย์จะนำสันติภาพและความสงบมาสู่ประเทศลาว

     เหตุผลหลักที่อาตมามาเยี่ยมพระสงฆ์ทั้งหลายที่วัดนี้ในวันนี้ อาตมาหวังว่าทุกคนจะก้าวเดินบนหนทางอันแจ่มจรัสจากพระพุทธเจ้า รับพรมากมายจากพระพุทธเจ้า – พระโพธิสัตว์ และปฏิบัติธรรมเพื่อนิพพานในชาตินี้ พระอาจารย์สาลีจะต้อนรับพวกท่านในดินแดนอันบริสุทธิ์ ท่านจะนำความสุขและสันติมาให้ทุกคน
     อีกครั้งหนึ่ง อาตมาหวังว่าพระสงฆ์ทั้งหลายในวัดจะเจริญรอยตามหนทางแห่งพระพุทธศาสนา เพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปสู่โลก นำพรและสันติสุขให้ประเทศลาว
     อาตมาขออวยพรให้พุทธศาสนิกชนที่มาพร้อมกันที่นี่ในวันนี้มีสันติสุข ทุกคนเป็นเพื่อนสนิทของอาตมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ ขอบคุณเหล่าพระสงฆ์และทุกคนที่ฟังอาตมา
     ในโอกาสนี้ อาตมามีของขวัญเล็กน้อยเพื่อทำบุญให้กับวัด ซองทำบุญทั้งหมดที่ทุกคนมอบให้อาตมา อาตมาขอมอบให้วัดนี้ ไม่ใช่อาตมาไม่รับเงินทำบุญจากพวกท่านนะ แต่อาตมารับเพียงแต่น้ำใจและความรักที่พวกท่านมอบให้อาตมา อาตมาจะนำคุณธรรมและบุญกุศลจากหลายๆชาติของอาตมามอบให้แก่ท่าน สินน้ำใจเหล่านี้จากพวกท่านอาตมาจะใช้มันเพื่อสนับสนุนวัดนี้ ตอนนี้ที่วัดนี้ต้องการมันมากกว่าอาตมา อาตมารู้ว่าทรัพย์สินเงินทองที่พวกท่านมอบให้อาตมาเพื่อทำบุญนั้นมาจากน้ำพักน้ำแรง หยาดเหงื่อแรงกายของพวกท่านที่ทำงานหนัก แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อยแต่ก็มาจากหัวใจของชาวเวียดนามที่สะสมมาเพื่อให้อาตมา วันนี้ อาตมาจะทำพิธีเพื่อสันติสุขและมอบบุญกุศลให้แก่พวกท่านและแก่ประเทศลาวโดยรวม (พระอาจารย์ประกอบพิธี)
     คำถาม: กราบนมัสการพระอาจารย์ เมื่อกี้พระอาจารย์บอกว่าพระอาจารย์สาลีได้ไปสวรรค์แล้ว ผมอยากไปสวรรค์บ้าง ขอเรียนถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์จะช่วยให้พวกเราได้ขึ้นสวรรค์เหมือนพระอาจารย์สาลีได้หรือไม่ครับ?
     คำตอบ:ถ้าท่านอยากไปสวรรค์เหมือนพระอาจารย์สาลี พวกท่านต้องศึกษาบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ พระอาจารย์สาลีได้ปฏิบัติธรรมมาหลายต่อหลายชาติแล้ว โลกใบนี้ไม่ได้เป็นโลกของพระอาจารย์สาลี หลังจากที่ท่านสิ้นสุดภารกิจบนโลกนี้แล้ว ท่านจะกลับไปยังสถานที่ซึ่งท่านจากมา พวกเราก็ไม่ได้เป็นของโลกนี้ ทุกคนมาจากสวรรค์แต่ลงมาบนโลกนี้ เพราะว่าพวกท่านมาที่นี่ตั้งหลายต่อหลายชาติ ดิ้นรนสู้ชีวิตและจมอยู่กับโลกวัตถุมากเกินไป เลยลืมว่าตัวเองเป็นใคร ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นพระอริยะเจ้าผู้สูงส่ง แต่ท่านบอกว่าท่านอยากกลับไปสวรรค์
ไม่ว่าพวกท่านจะต้องการหรือไม่ก็ตาม พอสิ้นชีวิตนี้แล้วพวกท่านก็ต้องกลับมายังโลกนี้อีก ตอนนี้พวกท่านบางคนที่นั่งอยู่ที่นี่ หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่สูงส่ง ท่านลงมายังโลกใบนี้ เป็นคนรวย รู้จักบริจาคเงินเพื่อการกุศลและช่วยเหลือผู้อื่น ท่านคิดว่านี่พอแล้วในชีวิตนี้ แต่ท่านไม่ได้เป็นสมบัติของโลกนี้ โลกที่ท่านอยู่คือโลกแห่งสันติสุขและนิพพาน ถ้าท่านไม่ไปที่นั่นแล้วจะไปที่ไหน? ท่านต้องกลับบ้านไปยังแหล่งกำเนิดของตัวเอง
โลกนี้เป็นโลกชั่วคราวเท่านั้น เป็นโรงแรมให้พวกท่านพัก พระอาจารย์สาลีลงมาที่นี่เพื่อปลุกพวกท่านให้ตื่นเพื่อให้กลับไปกับเขา ตอนนี้ภารกิจของท่านเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้พวกท่านเองต้องศึกษาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิเพื่อให้รู้ว่าพวกท่านมาจากไหนและเมื่อตายไปแล้วพวกท่านจะไปที่ไหน พระอาจารย์สาลีได้ร่ำเรียนพระพุทธศาสนา สละชีวิตของท่านเองเพื่อเตือนพวกท่านอยู่ทุกวันว่า โลกนี้เป็นโลกชั่วคราวเท่านั้น ไม่ถาวร และเมื่อถึงวาระสุดท้าย ทุกคนต้องกลับบ้านไปยังแดนนิพพาน

     คำถาม: กราบนมัสการพระอาจารย์ พวกเราทราบว่าพระอาจารย์เป็นพระพุทธะที่มีชีวิต แล้วพระเจ้าเป็นอย่างไรและมีหน้าที่อะไร ขอพระอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยครับ
     คำตอบ:พวกท่านทั้งหลายเป็นพระพุทธะที่มีชีวิต แต่ว่าพวกท่านไม่รู้ตัว ทุกคนมีหน้าที่จากจักรวาลและจากพระผู้มีพระภาคเจ้า ลงมายังโลกนี้เพื่อเตือนทุกคนให้ยอมรับปัญญาและความสงบภายใน ทุกคนมีพระพุทธะภายใน พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เราเป็นพระพุทธเจ้า และพวกท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต” อาตมาได้ประจักษ์ถึงพระพุทธะภายในของอาตมาเองแล้ว แต่พวกท่านยัง เพราะว่าพวกท่านไม่ยอมรับสัญชาตญาณ ปัญญาและลืมพระอาจารย์ภายในไป
พระสงฆ์ทุกรูปในจีวรสีเหลืองนั้นย้ำเตือนพวกท่านว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า อาตมาก็มาที่นี่เพื่อเตือนพวกท่านให้ค้นหาสันติสุขภายใน เตือนให้พวกท่านระลึกไว้ว่า: ไม่ว่าท่านจะหาเงินได้มากเท่าไรในชาตินี้ ทรัพย์สินเงินทอง วัตถุต่างๆนั้น เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิตพวกท่านก็ต้องจากไปมือเปล่า พระสงฆ์เหล่านี้ พระอาจารย์สาลีและอาตมาเองได้นำความรักความเมตตามาเตือนผู้คนให้มุ่งสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อให้รับรู้ว่าโลกใบนี้เป็นสิ่งจอมปลอมและชั่วคราวเท่านั้น และการดับขันธ์ของพระอาจารย์สาลีก็แสดงให้พวกท่านรู้ว่า “ทุกสิ่งคือสุญญตา (ความว่างเปล่า)” เมื่อพวกท่านตายไปพวกท่านก็เอาอะไรติดตัวไปด้วยไม่ได้ มีอย่างเดียวที่พวกท่านเอาไปได้คือบุญกุศล การปฏิบัติธรรมและคุณธรรมที่พวกท่านได้สร้างไว้เมื่อยามที่มีชีวิต
     
     คำถาม: กราบนมัสการพระอาจารย์ ตอนที่พระอาจารย์ประกอบพิธีตีระฆัง ผมรู้สึกผ่อนคลาย สบายมากๆ พระอาจารย์บอกได้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร?
     คำตอบ:วันนี้เป็นครั้งแรกที่อาตมาประกอบพิธีนี้ที่นี่ พิธีนี้มาจากศาสนาพุทธดั้งเดิม การตีระฆังแบบนี้เฉพาะทำพิธีสำหรับพระสงฆ์ที่ดับขันธ์ ไม่ใช่สำหรับฆราวาส เสียงของระฆังที่พวกท่านได้ยินนั้นไม่ใช่การตีแต่เป็นการหมุนไม้ไปรอบๆระฆังเพื่อสร้างพลังเสียงที่ก่อให้เกิดความสงบ ทำให้เมื่อท่านได้ยินเสียงแล้วรู้สึกผ่อนคลายและสงบ
อาตมาขออวยพรพวกท่านทุกคน ณ ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ให้ได้รับพรและสันติสุขจากพระพุทธเจ้า – พระโพธิสัตว์ ในโอกาสนี้ อาตมาขอเตือนพวกท่านว่า “ชีวิตนี้แสนสั้น ขอให้พวกท่านจงหาความสงบสุขด้วยการฝึกฝนปฏิบัติธรรมและทำสมาธิทุกวัน

     อาตมามีบุญสัมพันธ์กับประเทศลาวและประชาชนชาวลาว อาตมาอยู่เคียงข้างพวกท่านเสมอ อาตมาจะมาพบพวกท่านอีกเร็วๆนี้ อาตมาหวังว่าพวกท่านและเหล่าพระสงฆ์จะเจริญก้าวหน้าในธรรม บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณบนสวรรค์
สาธุ!