เทศนา

พระอาจารย์รูมาเทศนาที่หมู่บ้านดอนแดง แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว
วันที่ 4 ตุลาคม 2553


พิธีกรแนะนำพระอาจารย์:
 
วันนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้มาแนะนำอาตมาของพวกเราและเป็นล่ามให้กับพระอาจารย์ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อน ผมชื่อ เวียงสวรรค์ หรือเรียกสั้นๆว่า เวียง เป็นล่ามให้พระอาจารย์ พระอาจารย์ของพวกเราชื่อว่าพระอาจารย์รูมา ท่านเป็นชาวเวียดนามโดยกำเนิดแต่ได้ไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุ 12 ปี ท่านได้ออกจากประเทศเวียดนามเมื่อตอนที่ท่านอายุ 12 ปีในช่วงที่เกิดสงครามเวียดนาม ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ลำบากแสนสาหัสสำหรับคนเวียดนาม ท่านได้พลัดพรากจากครอบครัว ต้องอพยพไปสหรัฐอเมริกาโดยทางเรือ ในเรือลำนั้นเป็นเรือที่เคราะห์ร้าย ได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจ ไร้มนุษยธรรม มีการปล้มสะดมภ์ ในเรือลำนั้น คนฆ่ากันเพื่อแย่งชิงอาหาร พระอาจารย์ต้องประสบเหตุการณ์ฆ่าฟันกันต่อหน้าต่อตาโดยไม่มีทางออก เมื่อมาถึงประเทศอเมริกา พระอาจารย์มีครอบครัวอุปถัมภ์ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายแต่ไม่เคยลืมความทุกข์ของมนุษย์ในช่วงวัยเยาว์ ท่านเห็นความทุกข์ยากของมนุษย์มามาก ท่านคิดว่าทำอย่างไรจึงจะยุติความทุกข์และทำให้พวกเราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ เมื่อพระอาจารย์อายุได้ 18 ปี ท่านจึงได้ออกไปแสวงหาหนทางหลุดพ้น ท่านเดินทางไปทุกที่ ประเทศอินเดีย ทิเบต ภูเขาหิมาลัย ฝึกฝนบำเพ็ญธรรมจนบรรลุมรรคผลตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ แล้วจึงได้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล
 
หมู่บ้านของพวกเราเป็นหมู่บ้านที่ทุรกันดาร ห่างไกล แต่พระอาจารย์ ก็ไม่ย่อท้อที่จะมาพบพวกเรา เป็นเพราะพวกเราได้ทำบุญกุศลร่วมกันกับพระอาจารย์ มาก่อนเมื่อหลายชาติมาแล้ว
 
ถ้าพวกท่านมีคำถามเรื่องธรรมะหรือคำถามเรื่องการทำสมาธิก็เชิญถามพระอาจารย์ได้ เพราะพระอาจารย์ได้ฝึกฝนการทำสมาธิมานาน ถ้าพวกเราอยากเรียนการทำสมาธิด้วยวิถีแห่งแสงและเสียง ก็ถามท่านได้
 
พระอาจารย์เทศนา:
 
พวกท่านสบายดีไหม อาตมาดีใจที่ได้เจอกับพวกท่านอีกครั้ง ตั้งหลายๆพันปีมาแล้ว พวกท่านจำอาตมาได้ไหม จำไม่ได้ ใช่ไหม อาตมารู้ เมื่อเราเกิดมา เราก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป อาตมารู้ว่าพวกท่านลืมอาตมา แต่อาตมาไม่ลืมพวกท่าน
พวกท่านช่างสวยงาม นานมาแล้วที่อาตมาไม่ได้เจอพวกท่าน อาตมาดีใจมากที่ได้เจอพวกท่านอีกครั้ง นี่เป็นชาติสุดท้ายแล้ว อาตมามีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่มาก อาตมารู้สึกเหมือนกับว่าได้กลับมาที่บ้านอีกครั้ง วันนี้ทุกคนแข็งแรงดีใช่ไหม
 
ขอบคุณมากที่พวกท่านอดทนนั่งอยู่ที่นี่ อาตมายินดีที่ได้เจอพวกท่านอีกครั้งหนึ่ง หลายพันปีมาแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน พวกท่านลืมอาตมาแต่อาตมาไม่ลืมพวกท่าน แม้ว่าเราแต่ละคนจะต่างกัน อาตมาเป็นคนเวียดนามหรืออเมริกัน สัญชาติต่างกันแต่เรารู้จักกันมานานหลายพันปี หลายๆชาติที่แล้ว ทำไมอาตมาถึงพูดอย่างนั้น อาตมาจะเล่าเรื่องหนึ่งให้พวกท่านฟัง
 
นานมาแล้ว มีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้านที่สวยและน่าอยู่ คนในหมู่บ้านนิสัยดี รักสงบและมั่งคั่ง พวกเขามีทองคำและสิ่งของต่างๆเยอะแยะ หมู่บ้านนั้นมีคนอาศัยอยู่หลายพันคนมีพระราชาองค์หนึ่ง เป็นพระราชาที่ยิ่งใหญ่ พระองค์มีเมตตาธรรมและรักพสกนิกร พระองค์เป็นกษัตริย์ที่รักประชาชนเสมือนกับรักตัวพระองค์เองหรือเหมือนที่พระองค์รักครอบครัวของพระองค์เอง
 
วันหนึ่ง พระองค์ออกไปนอกวังเพื่อเยี่ยมราษฎร และทรงเห็นว่าผู้คนใช้ชีวิตอย่างหรูหรา สง่างามและสงบ แต่ไม่มีใครรู้เรื่องจิตวิญญาณ ไม่มีใครหลุดพ้น และต้องเวียนว่ายตายเกิด ตายแล้วกลับมาเกิด ตายแล้วกับมาเกิด ครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ทรงเสียพระทัยยิ่งนัก พระองค์ทอดพระเนตรประชาชนของพระองค์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับวัตถุนิยม วันหนึ่งพระองค์รู้ว่ามีประเทศหนึ่งกำลังจ้องโจมตีประเทศของพระองค์เพราะประเทศของพระองค์มีความมั่งคั่งและมีเงินทองมากมาย ประเทศเพื่อนบ้านนั้นอยากจะบุกเข้ายึดครองประเทศของพระองค์
 
พระองค์ทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งและตรัสว่า “ข้าพเจ้าไม่ต้องการสู้รบ ข้าพเจ้าไม่ต้องการทำสงครามเพราะท่านเห็นว่าประเทศของข้าพเจ้ามีทองคำและปัจจัยมากมาย” และแล้ว วันหนึ่ง พระองค์รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเพราะศัตรูเกือบมาถึงอาณาจักรของพระองค์ พระองค์จึงออกจากอาณาจักรไปและทิ้งข้อความไว้ให้กับประชาชนของพระองค์ ในนั้นเขียนว่า “ข้าพเจ้าจากไปเพื่อค้นหาสัจธรรมและการหลุดพ้น การรู้แจ้งเห็นจริง สักวันข้าพเจ้าจะกลับมาสั่งสอนทุกคน ข้าพเจ้าจะบอกว่าการรู้แจ้งเป็นเช่นไร และจักรวาลยิ่งใหญ่เพียงใด ข้าพเจ้าจะตอบพวกท่านว่ามีดินแดนอื่นที่งดงาม ไม่มีการเข่นฆ่า ไม่มีการสู้รบ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความทุกข์ทรมานและไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดหรือไม่
 
หลังจากนั้นพระองค์ก็มุ่งหน้าไปยังหิมาลัยเพื่อทำสมาธิ วันหนึ่งเมื่อพระองค์บรรลุมรรคผลแล้ว ก็เห็นว่าบนสวรรค์มีดินแดนแห่งหนึ่งที่งดงาม ถนนทำด้วยทองคำและเพชร เป็นโลกที่งดงามจริง ๆ มีบ้านเรือนสวยงามและทุกอย่างทำด้วยทองและเพชร พระองค์คิดว่า “ข้าพเจ้าจะเก็บโลกใบนี้ไว้ให้คนในประเทศของข้าพเจ้า”
 
หลังจากที่พระองค์รู้แจ้งเห็นจริงและได้เดินทางไปทั่วทุกมุมจักรวาลแล้ว พระองค์ก็กลับมายังโลกแล้วมองหาประชาชนของพระองค์ ในประเทศที่พระองค์ปกครองมานานหลายพันปี
 
เนื่องจากในขณะนั้นประชาชนต่างพากันหลงใหลวัตถุนิยมและไม่สนใจเรื่องจิตวิญญาณ พระราชาจึงต้องไปบวช พระราชาองค์นั้นคืออาตมาในตอนนี้และประชาชนในประเทศนั้นคือพวกท่านทุกคนในวันนี้
 
พวกท่านลืมอาตมาแต่อาตมาไม่ลืมพวกท่าน
 
อาตมารู้ว่ามันยากที่จะยอมรับอาตมาและยอมรับความจริงอันนั้น แต่ไม่เป็นไรเพราะอาตมารู้ว่าพวกท่านเป็นใคร
อาตมามาที่นี่เพื่อเตือนพวกท่าน เรายังมีอาณาจักรอันงดงามรอคอยให้พวกท่านไปอาศัยอยู่ พวกท่านจะไม่ต้องทรมานกับความเจ็บป่วย ความหิวโหย เฮอริเคนและทอร์นาโด เราไม่มีอะไรแบบนี้ที่นั่น หากเราขึ้นไปที่นั่นได้ จะเห็นว่ามันงดงามเหลือเกิน เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ชั่วนิรันดร์ ไม่มีวันตาย คนที่นั่นร่ำรวยมากและเราจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ อะไรก็ตามที่เราชอบ สิ่งนั้นจะมาหาเรา สิ่งเหล่านี้มีได้เพียงในดาวดวงนั้น อาตมารอคอยพวกท่านมานานหลายพันปีแล้ว
 
บางครั้งเรากลับมาเกิดแล้วก็ลืมอดีตชาติ ตาของเราถูกปิดและให้รับรู้เพียงแค่ปัจจุบัน “ฉันเป็นคนลาว ท่านเป็นพระเวียดนามแล้วท่านก็จากประเทศของท่านใช้ชีวิตในอเมริกา จากนั้นก็ไปอินเดีย ต่างๆนานา เราเพิ่งรู้จักกันในครั้งนี้” แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น เรารู้จักกันมานานแสนนานในอดีตชาติ
 
บางครั้งนั่นคือปัญหา นั่นคือปัญหาของร่างกายมนุษย์ พวกท่านไม่รู้อะไร แต่ขอให้อาตมาได้เล่าให้พวกท่านฟังหน่อย พวกท่านทุกข์ทรมานมามากแล้ว ถึงเวลาที่ต้องมองให้ลึกลงไปข้างในแล้วอธิษฐานขอให้พระพุทธองค์ช่วย และพยายามกินเจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เราจะได้กลับไปยังดินแดนของพระพุทธองค์ด้วยกัน
 
รู้ไหมว่าครั้งแรกที่อาตมารู้จักล่ามท่านนี้ อาตมาบอกเขาว่า “ไม่ใช่ อาตมารู้จักโยมมานานหลายอดีตชาติแล้ว” เขารักอาตมามาก นั่นเป็นเพราะเขาเคยเป็นเจ้าชายองค์หนึ่งของอาตมา เขาเคยเป็นโอรสของอาตมาในตอนที่อาตมาเป็นพระราชา เขาติดตามบิดาไปในป่าแล้วฝึกสมาธิเพื่อหาทางหลุดพ้น
 
หลังจากที่อาตมาหลุดพ้น อาตมาได้ไปสวรรค์ในขณะที่โอรสของอาตมากลับมายังประเทศเพื่อต่อสู้กับศัตรู ในที่สุด เขาก็รบชนะและช่วงชิงประเทศกลับคืนมาได้ แล้วได้เป็นพระราชาต่อจากนั้น
 
ก่อนเกิดเรื่องเหล่านั้น อาตมาบอกโอรสว่า “อย่า อย่าไปสู้กับศัตรู พวกเขายึดครองประเทศเราแล้ว ปล่อยพวกเขาทำตามสิ่งที่อยากทำ” แต่โอรสของอาตมาไม่ฟังคำแนะนำ หลังจากที่อาตมาไปสวรรค์ เขากลับไปยังประเทศและต่อสู้กับศัตรู ผลก็คือเขากลายเป็นพระราชาในขณะนั้น นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกจนถึงบัดนี้
 
อาตมาประทับจิตให้เขาเพราะเขาอยากจะเรียนรู้วิธีการทำสมาธิกับอาตมา อาตมาถามเขาว่า “โยมต้องทานมังสวิรัตินะ ทำได้ไหม” เขาตอบว่า “ได้ครับ ถ้าต้องทำแบบนั้น” เพราะว่าลูกศิษย์ของอาตมาทำอาหารมังสวิรัติที่น่ากินและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อเขาเห็นเขาพูดว่า “ถ้าอาหารมังสวิรัติเป็นแบบนี้ ผมจะกินตลอดไป” อาตมาสอนการทำสมาธิให้เขา และหลังจากนั้น อาตมาถามเขาว่า “มีประสบการณ์จากสวรรค์แล้วหรือยัง” เขาตอบว่า “มีแล้วครับ”
 
ตอนนี้พวกท่านรู้แล้วใช่ไหม บางครั้งเมื่อเรากลับมาเกิดใหม่ เราลืมทุกอย่าง               
 
หากเรามีโอกาสได้รู้สิ่งนี้อีก ได้โปรดเรียนรู้การทำสมาธิและภาวนาต่อพระพุทธองค์ทุกวัน พวกท่านควรอธิษฐานต่อพระพุทธองค์ดังนี้ “หลังจากที่ข้าพเจ้าอายุครบหนึ่งร้อยปีแล้ว เมื่อเวลานั้นมาถึง ได้โปรดมาช่วยข้าพเจ้าให้กลับไปยังสวรรค์ด้วยเถิด” เนื่องจากพระองค์ทรงทราบเส้นทางลัดกลับบ้านอย่างรวดเร็ว ทุกวันเราอธิษฐานกับพระพุทธองค์แต่เราไม่เคยได้ยินพระองค์กล่าวหรือตอบอะไรเลย ใช่ไหม
 
เราเฝ้าอธิษฐาน ถวายอาหารให้ แต่พระองค์ก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น แม้ว่าเราจะอธิษฐานทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน เรายังไม่ได้ยินท่านตรัสอะไรเหมือนเดิม
 
นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้เห็นพระองค์อย่างแท้จริง เราเห็นเพียงพระพุทธรูปเท่านั้น แม้หลังจากที่พวกท่านอธิษฐานแล้ว พวกท่านก็ยังไม่เห็นพระองค์ เมื่อพวกท่านตายไป กลับมาเกิดอีก แล้วก็อธิษฐานใหม่อีก
 
อาตมาถึงบอกพวกท่านว่า “ถ้าพวกท่านอยากภาวนาให้พระองค์กลับมา อาตมาจะสอนวิธีให้พวกท่าน แล้วพระองค์จะได้ยินคำภาวนาของพวกท่าน” พวกท่านจะได้ยินและเห็นพระองค์มาหาพวกท่าน มันง่ายมาก
 
อาตมาพูดคุยกับพระพุทธองค์ได้ พวกท่านก็ต้องทำได้เช่นกัน หากเราทำเช่นนั้นได้หมายความว่าเรารู้แจ้งแล้ว จากนั้นเราจะไม่มีวันทุกข์ทรมานอีกต่อไป เรามีอิสระจะกลับไปยังสวรรค์ดังนั้นหากพวกท่านต้องการกลับบ้าน ไปยังอาณาจักรแห่งสวรรค์นั้น อาตมาจะสอนวิธีให้       
 
สายโทรศัพท์ พวกท่านก็ต้องติดต่อบริษัทโทรศัพท์ให้มาที่บ้านเพื่อเชื่อมสายให้พวกท่าน หลังจากที่พวกท่านมีสายแล้ว พวกท่านสามารถโทรไปหาแม่ เพื่อนหรือใครก็ได้ตามที่พวกท่านอยากคุยด้วย ใช่ไหม อาตมาจะยกตัวอย่างอีกอันหนึ่งให้ฟัง ถ้าบ้านพวกท่านไม่มีไฟฟ้า พวกท่านก็ต้องติดต่อองค์การไฟฟ้ามาทำการติดตั้งให้ จากนั้นพวกท่านก็แค่เปิดไฟแล้วบ้านทั้งหลังก็จะสว่าง การรู้แจ้งเห็นจริงก็เหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกท่านสามารถเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ พวกท่านเห็นสวรรค์ได้ พวกท่านเห็นเหล่าเทวดานางฟ้าได้ พวกท่านพูดคุยกับพระพุทธเจ้าได้ทุกเวลาที่ต้องการ พวกท่านอธิษฐานอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ การพูดคุยกับพระพุทธองค์นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก ง่ายเหมือนนับหนึ่ง สอง สาม นี่เป็นเรื่องจริง อาตมาไม่โกหก อาตมาเห็นพระองค์ได้ พวกท่านก็ทำได้เช่นกัน
 
อาตมาโชคดี อาตมามักบอกกับทุกคนว่ามีดาวที่งดงามดวงหนึ่งบนสวรรค์ มันสวยมาก เราสามารถรู้แจ้งเห็นจริง เราสามารถเห็นพระพุทธเจ้าได้ เราเห็นพระเจ้าได้ เราเห็นทุกอย่างที่เราต้องการ และถ้าเรารู้แจ้งแล้ว เราจะได้ยินพระองค์ตรัส เราพูดคุยกับพระองค์ได้ เราหลุดพ้นได้ในชีวิตนี้หากเราเรียนรู้ที่จะทำสมาธิที่เรียกว่าเสียงและแสง แต่ทุกคนไม่เชื่ออาตมา โชคดีที่ในสมัยนี้ไม่มีกษัตริย์ ไม่อย่างนั้นพระองค์คงตัดหัวอาตมาไปแล้ว
 
เห็นหรือยัง อาตมาโชคดีในขณะเป็นกษัตริย์แต่ประชาชนของอาตมาไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่สามารถทำในสิ่งที่อาตมาทำได้ อาตมาจึงบอกว่า “อะไรก็ตามที่เรารู้ บางครั้งเรารู้ สิ่งที่เราเห็นด้วยตา เราไม่เห็นสิ่งที่อยู่ภายในเช่นความรักของพระเจ้าที่ส่งมาที่นี่ ความรักของพระพุทธองค์ที่มอบให้กับเด็กๆ ตลอดเวลา” อาตมาจึงอดทนที่จะบอกกับพวกท่านว่ามีหลายสิ่งดังที่อาตมากล่าวมาตอนต้น นั่นอาจเป็นเพราะบางครั้งพวกท่านอธิษฐานต่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ได้ยินพระองค์เนื่องจากความจริงที่ว่าพวกท่านขาดการเชื่อมต่อกับพระองค์
 
เพราะว่าเราไม่ได้ยิน เราจึงขาดการติดต่อกับพระองค์ ถ้าพระองค์ตรัสกับเรา เราก็ไม่ได้ยินแน่นอน แม้ว่าพระองค์จะปรากฏต่อหน้าพวกท่าน พวกท่านก็จะไม่เห็นพระองค์ นั่นเป็นเพราะตาแห่งปัญญาหรือตาที่สามของพวกท่านหลับอยู่ หูภายในของพวกท่านถูกปิดกั้นอยู่ ถ้าพวกท่านอยากเห็นพระองค์ พวกท่านต้องเปิดดวงตาแห่งปัญญาก่อน ถ้าพวกท่านอยากได้ยินพระองค์พวกท่านก็ต้องเปิดหูภายในก่อน แล้วพวกท่านจะพบความจริงตามที่อาตมาพูด อาตมาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นอาจารย์ของพวกท่าน อาตมามาที่นี่เพื่อปลุกพระพุทธะในตัวพวกท่านให้ตื่น พวกท่านจะได้รู้ว่าตัวพวกท่านเป็นใครและมาจากไหน
 
อาตมาขออวยพรให้พวกท่านประสบแต่สิ่งดีๆ อาตมาอธิษฐานต่อพระพุทธองค์ให้ประทานพรแก่ประเทศนี้ ขอบคุณมาก โยมผู้ใหญ่บ้าน ขอให้ดูแลลูกบ้านของพวกท่านต่อไปและทำหน้าที่ให้ดีต่อไป อาตมาอธิษฐานให้พวกท่านและทุกคนที่อาตมามีวาสนาผูกพันด้วยพรหมลิขิต ขอให้จำสิ่งที่อาตมาบอกไว้ และวันหนึ่งพวกท่านจะรู้ว่ามันเป็นความจริง
 
อาตมาทำหน้าที่ของอาตมาเรียบร้อยแล้ว อาตมาจากอาณาจักรของอาตมาและสละทุกอย่างเมื่อหลายพันปีก่อน แล้วออกบวชเพื่อค้นหาสัจธรรม เพื่อรู้แจ้งเห็นจริงและกลายเป็นพระพุทธะ ตอนนี้อาตมากลับมาเพื่อบอกพวกท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ งานของอาตมาเสร็จสิ้นแล้วและหน้าที่ของพวกท่านคือฟังสิ่งที่อาตมาพูดและฝึกฝนด้วยตัวเอง แล้วพวกท่านจะหลุดพ้น อาตมารู้ว่าพวกท่านเป็นใคร บางทีพวกท่านอาจลืมไป ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญที่สุดคืออาตมายังคงรู้ว่าพวกท่านเป็นใคร
 
วิธีการทำสมาธินี้เป็นกุญแจสู่ความหลุดพ้น ทำให้หลุดพ้นได้ในชั่วชีวิตเดียว อาตมานำมันมาจากแดนไกล อาตมาต้องกลับมาเกิดใหม่ตั้งหลายพันล้านภพชาติเพื่อฝึกฝนวิธีทำสมาธิแบบนี้ จนกระทั่งอาตมาได้พบความลับและทำได้สำเร็จ อาตมามาที่นี่พร้อมกับนำสิ่งนี้มาให้ประชาชนของอาตมา อาตมาต้องรอคอยมาแสนนานแต่ไม่เป็นไร สมาธินี้มีเพื่อพวกท่าน หากพวกท่านอยากเรียนและพร้อมที่จะเรียน อาตมาก็ยินดีจะแบ่งปันให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ วิธีนี้เรียกว่าสมาธิเสียงและแสง เสียงภายในและแสงภายใน เสียงจากพระพุทธเจ้าและแสงจากพระพุทธเจ้า จากพระผู้มีพระภาคเจ้า
 
นี่คือสิ่งที่อาตมาพูดในวันนี้ อาตมาขออวยพรให้พวกท่านประสบความสำเร็จในชีวิต ขอพระเจ้าอยู่กับพวกท่านทุกวันและขอให้พระพุทธองค์อยู่กับเราทุกคนตลอดไป ทุกคนอยู่ในหัวใจอาตมาเสมอ อาตมาไม่เคยทิ้งพวกท่านไปไหน พวกท่านลืมอาตมา แต่อาตมาไม่ลืมพวกท่าน
 
เอาละ ขอบคุณมาก นี่เป็นสมาธิที่อาตมาพูดถึง ธรรมวิถีแห่งเสียงและแสง ใครต้องการเรียนรู้ อาตมาจะแนะนำให้ ทุกคนสามารถเรียนได้ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาส ใครต้องการเรียนอาตมาจะบอกให้ลูกศิษย์ของอาตมาหรือใครก็ตามอยู่ที่นี่มาสอนพวกท่าน
 
ขอบคุณมาก ขอบคุณพวกท่านอีกครั้ง